นูทานิคซ์ (Nutanix) ประกาศยกระดับแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ ด้วยบริการ Self-Service แบบอัตโนมัติ สำหรับไพรเวทคลาวด์ (Private Cloud)…

highlight

  • นูทานิคซ์ (Nutanix) ประกาศยกระดับแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จของนูทานิคซ์ (Hyperconverged Infrastructure หรือ HCI) ด้วยการผสานการทำงานของโซลูชั่นการจัดการ และการปฏิบัติงานด้านไอทีของ ServiceNow ช่วยให้กระบวนการทำงานที่สำคัญบนไพรเวทคลาวด์เป็นแบบอัตโนมัติ ผู้ใช้งาน ServiceNow สามารถค้นพบนูทานิคซ์ HCI ได้โดยอัตโนมัติ และยังสามารถเข้าถึงการบริการด้านไอทีที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของนูทานิคซ์ พร้อมรับการแจ้งเตือนโดยตรงหากมีเหตุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับนูทานิคซ์ HCI ในระบบไพรเวทคลาวด์ขององค์กรของตน

บริการ Self-Service อัตโนมัติ สำหรับ Private Cloud

นูทานิคซ์ (Nutanix) ประกาศถึงการนำระบบอัตโนมัติมาประยุกต์เข้ากับขบวนการขั้นตอนการทำงานในไอทีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลขององค์กร เมื่อการให้บริการ และกระบวนการทำงานที่มีการใช้งานมากที่สุดเป็นไปได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้บุคลากรด้านไอทีสามารถย่นระยะเวลา

ในการการแก้ไขปัญหา และการร้องขอต่างๆลงได้ ทำให้ไอทีสามารถมุ่งเน้นไปยังการนำเสนอประสบการณ์การใช้งานแบบพับลิคคลาวด์ (Private Cloud) ภายในดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ได้ รวมถึงสร้างความแตกต่างที่เหนือชั้นกว่า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และต่อยอดการวางแผนเชิงกลยุทธ์

ซึ่งจากการสำรวจผู้มีอำนาจในการตัดสินใจด้านไอที 2,650 รายทั่วโลก ที่นูทานิคซ์มอบหมายให้บริษัท แวนสัน เบิร์น เป็นผู้ทำการสำรวจครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมแบบสอบถามเกือบทุกราย (98%) กล่าวว่าระบบการปฏิบัติงานไอทีแบบอัตโนมัติมี ความสำคัญ” ต่อองค์กร โดย 56% ระบุว่า สำคัญอย่างยิ่ง 

Private Cloud

นอกจากนี้ รายงาน How to Migrate From Legacy Infrastructure to HCI and Integrated Systems, Hiroko Aoyama, March 2019 จากการ์ทเนอร์ (Gartner) ยังระบุอีกว่า ภายในปี 2565 

โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะจะประกอบไปด้วยแมชชีนเลิร์นนิ่ง การวิเคราะห์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ สำหรับการทำงานด้านไอที (AIOps) ซึ่งเป็นรูปแบบซอฟต์แวร์ และจะประกอบไปด้วย HCI กว่า 60%

โซลูชันการจัดการ การปฏิบัติงานด้านไอทีของ ServiceNow

การผสานเข้ากับโซลูชันการจัดการ การปฏิบัติงานด้านไอทีของ ServiceNow (ServiceNow IT Operations Management solution) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ 3 ด้าน

  • ทำให้การค้นหานูทานิคซ์ไพรเวทคลาวด์ได้อัตโนมัติ ด้วยประสิทธิภาพของ ServiceNow ITOM Discovery ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานด้านไอทีมองเห็นการดำเนินงาน และทรัพยากรของนูทานิคซ์แบบ end-to-end รวมถึง ระบบคลัสเตอร์ HCI (HCI clusters), โฮสต์ (individual hosts), เวอร์ชวลแมชชีน (virtual machine (VM) instances), สตอเรจ (storage pools) รวมถึงการกำหนดค่าอีกมากมาย และตัวชี้วัดที่มีแอปพลิเคชันเป็นศูนย์กลาง
  • นำเสนอความสามารถในการบริการแบบ self-service แก่ผู้ใช้งาน ServiceNow เพื่อความรวดเร็วในการจัดเตรียม จัดการ และปรับขยายแอปพลิเคชันผ่านพิมพ์เขียวของ Nutanix Calm ซึ่งได้ถูกจัดเก็บเป็นรายการของการบริการไว้ในแพลตฟอร์ม Now ทั้งนี้การปลั๊กอิน Nutanix Calm พร้อมให้บริการแล้วทาง ServiceNow Store
  • สามารถจัดการกับการปฏิบัติงานไพรเวทคลาวด์บนพื้นฐานของนูทานิคซ์ได้ดีขึ้น ผ่านการผนวกรวมเข้ากับเครื่องมืออัตโนมัติ X-Play ของนูทานิคซ์ ที่มีอยู่ใน Prism Pro ด้วยประสิทธิภาพการทำงานของ X-Play สำหรับ ServiceNow ผู้บริหารด้านไอทีสามารถยกระดับการบริการของ ServiceNow ITSM เพื่อรับการแจ้งเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นภายในสภาพแวดล้อมไพรเวทคลาวด์ที่เพิ่มสมรรถนะด้วยเทคโนโลยีนูทานิคซ์ เช่น เมื่อสูญเสียพลังงาน หรือเมื่อประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์กำลังจะหมดลง

ราจีฟ มิรานี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของคลาวด์แพลตฟอร์มประจำนูทานิคซ์ กล่าวว่า ระบบอัตโนมัติคือกุญแจสำคัญในการควบคุมประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นของไพรเวทคลาวด์ ช่วยขจัดงานเดิมๆ ที่ทำเป็นประจำ เพื่อให้ฝ่ายไอทีสามารถมุ่งเน้นไปยังการสร้างความแตกต่างในการแข่งขันผ่านการใช้นวัตกรรมล่าสุด

และยังสามารถรองรับต่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในอนาคตได้อย่างมั่นใจ ด้วยการผสมผสานซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์เข้ากับ ServiceNow ที่เป็นโซลูชันดิจิทัลเวิร์คโฟลว์ชั้นนำ

และสามารถมอบระบบอัตโนมัติแบบ end-to-end ของโครงสร้างพื้นฐาน และแอปพลิเคชันเวิร์คโฟลว์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ไพรเวทคลาวด์สามารถมอบความเรียบง่าย และยืดหยุ่นราวกับการบริการของพับลิคคลาวด์ได้เช่นเดียวกัน

Private Cloud

ด้าน เจฟ ฮอสแมน รองประธาน และผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายการจัดการ และปฏิบัติการด้านไอทีประจำ ServiceNow กล่าวเสริมว่า ผู้นำด้านไอทีมีความต้องการระบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้ในการทำงานด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปยังการทำงานระดับสูง และเป็นตัวขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์

สำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่องค์กรดิจิทัล และเป็นการยกระดับองค์กรด้วย โซลูชั่นการจัดการ และปฏิบัติการด้านไอที ServiceNow (ServiceNow IT Operations Management) สามารถติดตามการดำเนินงานได้อย่างชัดเจนภายในสภาพแวดล้อมของนูทานิคซ์

จะช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการกับการปฏิบัติงานโดยรวมได้ดียิ่งขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาเชิงรุกได้ รวมถึงปกป้องประสิทธิภาพ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุนด้านไอทีขององค์กรได้อีกด้วย

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน : ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบ และข้อมูลบางส่วนจาก : www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ eleaderfanpage