ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์1

ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยและอินโดจีน บริษัท วีเอ็มแวร์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันองค์กรธุรกิจมีการปรับโฉมธุรกิจอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้จากกลุ่มธุรกิจบันเทิง มีเดีย และธนาคาร ได้ปรับเปลี่ยนไปสู่การดำเนินธุรกิจแบบดิจิตอลมากขึ้น โดยมีปัจจัยผลักดันการเปลี่ยนแปลง คือ เทคโนโลยีโมบายล์และคลาวด์ โดยไอดีซีได้สำรวจตลาดพบว่าในปี 2015 บริการคลาวด์ในประเทศไทยจะมีอัตราการโตขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ 29% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีอีกส่วนที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมไอทีไทยเติบโตคือ นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลผลักดันให้มีการใช้ไอทีมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากพฤติกรรมของคนไทยที่นำโทรศัพท์มือถือมาใช้ที่ทำงานถึง 91 % รองมาเป็นอีเมล์และแอพพลิเคชันอื่นๆ ขณะเดียวกันระบบความปลอดภัยก็ยังคงเป็นตลาดที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อป้องกันภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ต ดังนั้นการบริหารงานไอทียุคใหม่ต้องสามารถบริหารงานให้ทั้งสองส่วน คือ โมบายล์และคลาวด์สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ และมีความปลอดภัยด้วย

วีเอ็มแอร์ เล็งเห็นแนวโน้มดังกล่าวจึงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “One Cloud for Any Application” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแรกในตลาดที่จะทำให้องค์กรธุรกิจสามารถทำงานแบบปลอดภัย และไร้ข้อจำกัดได้บนทุกแอพพลิเคชันและทุกอุปกรณ์เทคโนโลยี โดยช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสร้างคลาวด์ภายในองค์กร รวมถึงการเชื่อมต่อการใช้งานร่วมกับคลาวด์สาธารณะ เพื่อสร้างไฮบริด คลาวด์ ที่องค์กรสามารถจัดการได้ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวอย่างสมบูรณ์แบบและเป็นหนึ่งเดียว นอกจากนี้แพลตฟอร์มของวีเอ็มแวร์ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้าง พร้อมเสนอทางเลือกใหม่ให้กับทุกองค์กรธุรกิจเพื่อสร้าง และจัดการการใช้งานแอพพลิเคชันและคลาวด์ได้ตามความต้องการ

โซลูชันภายใต้แพลตฟอร์ม “One Cloud for Any Application” นี้พัฒนามาจากการที่วีเอ็มแวร์เป็นผู้นำเทคโนโลยีซอฟต์แวร์-ดีฟายดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้เวอร์ชวลไลซ์ได้ทั้งดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น หน่วยประมวลผล เน็ตเวิร์ก หรือสตอเรจ และสามารถทำงานได้ทั้งบนแอพพลิเคชันดั้งเดิม (traditional application) และแอพพลิเคชันที่สร้างบนคลาวด์ (cloud-native application) ได้

cloud

จากผลการสำรวจดัชนีความพร้อมในการใช้คลาวด์ Cloud Readiness Index ในปี 2557 ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะประเทศไทยและเวียดนามมีแนวโน้มในการใช้เทคโนโลยีคลาวด์สูงขึ้น ประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มในการใช้งานแอพพลิเคชันทางธุรกิจสูงขึ้นในการทำงาน เช่น แอพพลิเคชันสำหรับงานบัญชี หรือ แอพพลิเคชันที่ช่วยให้พนักงานในองค์กรทำงานแบบเคลื่อนที่ ส่งผลให้องค์กรต่างๆ หันมาสร้างระบบคลาวด์สำหรับใช้งานในองค์กรและขยายรูปแบบการใช้งานไปสู่ไฮบริดคลาวด์ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานให้กับพนักงานในองค์กรปัจจุบันที่ทำงานแบบเคลื่อนที่ และใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการในทุกๆ ส่วนขององค์กร (Software-defined enterprise)

vmware

ดร.ชวพล กล่าวอีกว่า แพลตฟอร์ม One Cloud for Any Application รวมการจัดการระบบคลาวด์ ทำให้องค์กรสามารถพัฒนาแอพพลิเคชันใดก็ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการติดตั้งแอพพลิเคชันแบบอัตโนมัติ และใช้งานแอพพลิเคชันได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ตาม แพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบนี้ทำให้การสร้างแอพพลิเคชันใหม่ หรืออัพเดตแอพพลิเคชันที่มีอยู่แล้วมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเลือกตามความต้องการได้ พร้อมทำให้การจัดการและการรักษาความปลอดภัยของธุรกิจเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม ไม่ว่าจะใช้คลาวด์โมเดลใดก็ตาม