ดีแทค (dtac) สานความร่วมมือ กรมส่งเสริมการเกษตร และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด หนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ ผ่านโครงการสำนึกรักบ้านเกิดปีที่ 11…

highlight

  • ดีแทค สานต่อโครงการสำนึกรักบ้านเกิด ปีที่ 11 เดินหน้าจัดเวทีประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด พ.ศ.2562 ดำเนินมาถึงปีที่ 11 ภายใต้แนวคิด “เกษตรกรรุ่นใหม่ ใส่ใจผู้บริโภค” หวังส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตอาหารที่ปลอดภัย
  • งอุตสาหกรรมอาหารที่กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรโลก และการเปลี่ยนรูปแบบของวิถีชีวิตจากชนบทสู่เมืองที่เพิ่มมากขึ้น โดยประชากรเมืองจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 66% ภายในปี 30 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่ 50% ของประชากรทั้งประเทศ

dtac ตั้งเป้าหนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ ผ่านโครงการสำนึกรักบ้านเกิด ปีที่ 11

ดีแทค กรมส่งเสริมการเกษตร และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด สานต่อโครงการสำนึกรักบ้านเกิด ปีที่ 11 เดินหน้าจัดเวทีประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด พ.ศ.2562 ดำเนินมาถึงปีที่ 11 ภายใต้แนวคิด เกษตรกรรุ่นใหม่ ใส่ใจผู้บริโภค หวังส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตอาหารที่ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค

โดยเริ่มจากการสร้างความยั่งยืนให้กับตนเองแล้วส่งต่อให้กับผู้อื่น ด้วยการเกษตรวิถีอินทรีย์แบบครบวงจร ตั้งแต่ กระบวนการปลูก การแปรรูปเพิ่มมูลค่า การนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาปรับใช้เพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต รวมไปถึงการบริหารจัดการด้านการตลาด

โดยยึดหลักสำคัญทั้ง 4 ประการ คือ สุขภาพ (health) นิเวศวิทยา (ecology) ความเป็นธรรม (fairness) และการดูแลเอาใจใส่ (care) นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (eco-friendly) ตั้งแต่กระบวนผลิต การขนส่ง การบริโภค ไปจนถึงการจัดการ และกำจัดของเหลือใช้ในฟาร์ม

สำราญ สาราบรรณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กล่าวว่า อาหารปลอดภัยเป็นความท้าทายหนึ่งของโลกที่กำลังเผชิญ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขทั้งระบบ ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้บริโภค ตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ปัจจุบัน รัฐบาลได้เห็นความสำคัญในการผลักดันประเด็นดังกล่าว โดยคณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 ถึง 2564 ทั้งนี้ ในกระบวนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ ได้มีการจัดตั้งกลไกการขับเคลื่อนทั้งระดับชาติ

และระดับจังหวัด ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคการศึกษา เกษตรกรและผู้บริโภค เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเพิ่มพื้นที่และจำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ เพิ่มสัดส่วนตลาดเกษตรอินทรีย์ภายในประเทศ

รวมทั้งยกระดับกลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน นำไปสู่การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทย ทั้งนี้ พื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์ที่มีอยู่ทั่วโลกรวมกันประมาน 436.53 ล้านไร่ ใน 173 ประเทศ มีมูลค่าทางการตลาดสูง 3 ล้านล้านบาท ประเทศไทยจัดว่าเป็นอันที่ 7 ของภูมิภาค ซึ่งมีพื้นที่รวม 360,000 ไร่

โดยรัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้ได้ 1.3 ล้านไร่ ให้ได้ในปี 2565 ซึ่งการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์นี้ จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคด้านการผลิต การค้า การบริโภค และการบริการเกษตรอินทรีย์ที่มีความยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้ในอันใกล้นี้อย่างแน่นอน

dtac

ด้าน บุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด กล่าวว่า โครงการประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด มีความมุ่งหวังเชิดชูเกษตรกรตัวอย่าง และขยายแนวคิดการทำเกษตรอินทรีย์ ที่ปลอดภัย ใส่ใจผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด เกษตรวิถีอินทรีย์แบบครบวงจร

โดยคำนึงถึงผลกระทบในทุกมิติ อันได้แก่ ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งคำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารจานด่วน อาหารแปรรูป และอาหารปรุงแต่งที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ และยากต่อการคัดเลือกวัตถุดิบ

ดังนั้น การเลือกบริโภคอาหารที่มีวัตถุดิบอินทรีย์ถือเป็นทางเลือกในการรับประทานอาหารของคนเมือง เพื่อการรับประทานที่อุดมไปด้วยโภชนาการและปราศจากสารปนเปื้อน นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริม สนับสนุนและเป็นกำลังใจสำคัญให้กับเกษตรกรในการประกอบอาชีพการเกษตรวิถีอินทรีย์

ที่ต้องใช้ความวิริยะ อุตสาหะและความประณีตอย่างสูง เพื่อสร้างอาหารปลอดภัยให้ผู้บริโภค โดยกว่าทศวรรษที่เราดำเนินโครงการประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เชิดชูเกษตรกรต้นแบบที่มีศักยภาพ  

จนเกิดเป็นเครือข่ายเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ที่กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้กับแผ่นดิน ร่วมกันขับเคลื่อนชุมชน สังคมและเศรษฐกิจของประเทศให้มั่งคั่งยั่งยืน

dtac

ด้าน อเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ดิจิทัลเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมอาหารที่กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร (Food security)

จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรโลก และการเปลี่ยนรูปแบบของวิถีชีวิตจากชนบทสู่เมืองที่เพิ่มมากขึ้น (Urbanization) โดยประชากรเมืองจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 66% ภายในปี 30 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่ 50% ของประชากรทั้งประเทศ ส่งผลให้เกิดความตระหนักในความปลอดภัยของอาหาร

ซึ่งสามารถติดตามแหล่งที่มาของวัตถุดิบในการผลิตได้ (Traceability) เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มความต้องการของโลกที่เน้นความยั่งยืนทางอาหารมากขึ้น ประเทศไทยในฐานะเป็นผู้ผลิตทางการเกษตรรายใหญ่ของโลก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาทำให้ห่วงโซ่ทางการเกษตรมีประสิทธิภาพ

ผ่านการทำเกษตรอย่างแม่นยำ (precision farming) ซึ่งผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล (data) ที่ได้จากแปลงเกษตรจริง ทำให้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรปลอดภัยมากขึ้น ลดการพึ่งพาสารเคมี สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค ซึ่ง ดีแทคมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล

โดยยึดหลักการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Value) หรือ CSV ระหว่างภาคธุรกิจ สังคมและประชาชน เพื่อเสริมศักยภาพภาคการเกษตรไทย อันเป็นการตอกย้ำบทบาทของดีแทคที่มากกว่าการเป็น Mobile connectivity

ผลการตัดสินเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด พ.ศ.2562

dtac

  • รางวัลชนะเลิศ นายปรีชา หงอกสิมมา จ.ขอนแก่น

เกษตรกรรุ่นใหม่ผู้มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและเป็นแบบอย่างของการทำเกษตรแบบยั่งยืน หลังจากผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายจากการทำเกษตรแบบใช้สารเคมี และไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านเกษตรมา โดยตรง และเริ่มทำงานในโครงการส่วนพระองค์ มูลนิธิชัยพัฒนา

ทำหน้าที่เป็นวิทยากรฝึกอบรมให้เกษตรกรและผู้สนใจแนวพระราชดำริ ก่อนจะลาออกแล้วหันหน้ายึดอาชีพเกษตรกร โดยนำความรู้พื้นฐานด้านเกษตรที่ร่ำเรียนบวกกับความชอบเรื่องระบบนิเวศน์ป่าและธรรมชาติมาวางแผนในการทำแปลง โดยเน้นเรื่องป่าไม้ควบคู่กับการทำเกษตร

โดย ปรีชา ได้ยึดแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยแบ่งพื้นที่ 14 ไร่ เป็นแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ที่มีการผสมผสานกิจกรรมทางการเกษตรอย่างครบวงจร ได้แก่ ธนาคารต้นไม้ พื้นที่ปลูกผักอินทรีย์ ฟาร์มไก่ไข่อารมณ์ดี การแปรรูปสมุนไพรและพื้นที่ที่จัดสรรเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

นอกจากนี้ ยังได้นำผลผลิตจากป่ามาแปรรูปเป็นสินค้าเกษตรอินทรีย์ พร้อมทั้งผลิตพืชผัก และสมุนไพรอินทรีย์ภายใต้แบรนด์ วรพรรณ (WANAPHANW) ขณะเดียวกัน ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้

โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก สามารถเลือกปลูกผลผลิตนำมาแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตรได้ ทำน้อย ได้มาก สร้างรายได้ให้ทั้งตัวเอง และชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน

dtac

  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นายโกสินธุ์ สุวรรณภักดี จ.มหาสารคาม

ผู้คิดค้น ต่อยอด สร้างมูลค่าสินค้าเกษตรอินทรีย์ กล้วยเสียบตอก ด้วยการนำวัสดุพื้นบ้านมาใช้ สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้ชุมชน

  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นางกล้วย ดวงคำ จ.อุดรธานี

ผู้นำกลุ่มนาข้าวอินทรีย์ที่เข้มแข้ง มีเครือข่ายข้าวอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานออร์แกนิค สามารถส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศในนาม ข้าวอินทรีย์บ้านเชียงเพ็ง” 

dtac
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ที่ 2 จากซ้าย) นายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด (ซ้าย) นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค (ขวา) มอบรางวัลชนะเลิศเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด พ.ศ.2562 ให้แก่นายปรีชา หงอกสิมมา จ.ขอนแก่น (ที่ 2 จากขวา) เกษตรกรผู้ผลิตพืชผักและสมุนไพรอินทรีย์ภายใต้แบรนด์ “WANAPHANW” (วรพรรณ)
ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน : ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบ และข้อมูลบางส่วนจาก : www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ eleaderfanpage