Schneider Electric

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยโฉม คอนโทรลเลอร์  Schneider Electric EcoStruxure Triconex Tricon CX v11.3 ที่อัดเต็มศักยภาพความปลอดภัย หวังช่วยตอบโจทบ์อุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่ออันตรายสูง…

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น เผยโฉมคอนโทรลเลอร์ Tricon CX version 11.3 ตัวใหม่ ที่ทรงพลัง และช่วยยกระดับระบบเครื่องมือวัดความปลอดภัย ให้แก่อุตสาหกรรมที่ความเสี่ยงต่ออันตรายมากเป็นพิเศษ

Schneider Electric EcoStruxure Triconex Tricon CX v11.3

Schneider Electric

โดย Tricon CX version 11.3 นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่แข็งแกร่งที่สุด ที่ฝังอยู่ในระบบความปลอดภัยของกระบวนการผลิตที่โดดเด่นของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ทั้งนี้ Tricon CX ในเวอร์ชั่น 11.3 ได้รับมาตรฐาน IEC 62443 และการรับรองจาก TÜV Rheinland

สำหรับการดำเนินงานที่ให้ความปลอดภัยสูงในระดับ Safety Integrity Level 3  นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานการรับรอง ISASecure EDSA ระดับ 1 ซึ่งเป็นการรับรองความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำของอุตสาหกรรม สำหรับระบบควบคุมการทำงาน ระบบความปลอดภัยและส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ

ซึ่งจากการที่ Tricon CX version 11.3 เป็นระบบวัดความปลอดภัยในกระบวนการผลิตระบบแรกของอุตสาหกรรมที่ได้รับ dual-certified จึงตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยแน่นหนา ทั้งความปลอดภัยบนไซเบอร์ ช่วยลดความเสี่ยง

อีกทั้งตอบโจทย์เรื่องการดำเนินงานที่ต่อเนื่อง ทั้งในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่น ปิโตรเคมี พลังงาน และอุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยสูง

EcoStruxure ช่วยปกป้อง และรับรองความปลอดภัย แบบเรียลไทม์

Schneider Electric

ไมค์ คมิลิวสกี้ รองประธาน ฝ่ายความปลอดภัยด้านกระบวนการทำงาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า เราเป็นซัพพลายเออร์รายแรกที่ผ่านมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยพร้อมกันถึง 2 มาตรฐาน ทั้งด้านความปลอดภัยในการใช้งาน และความปลอดภัยบนไซเบอร์ จาก TÜV Rheinland  

นอกจากนี้ Tricon CX version 11.3 ยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ได้ในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม และช่วยนำทางลูกค้าของเราไปสู่อนาคตที่มั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า

ระบบเครื่องมือวัดความปลอดภัยขั้นสูง EcoStruxure Triconex เป็นระบบที่อุตสาหกรรมสามารถวางใจได้  โดยมีการบันทึกการใช้งานเป็นเวลายาวนานกว่า 1 พันล้านชั่วโมง โดยไม่เกิดความล้มเหลว   ให้ศักยภาพการดำเนินงานที่เสถียรและปลอดภัย Tricon CX version 11.3 ปกป้อง และรักษาความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ของลูกค้า

ตลอดจนพนักงาน รวมถึงสภาพแวดล้อม อีกทั้งเป็นความปลอดภัยที่ให้ประโยชน์ในแง่ของการสร้างผลกำไรได้อย่างแท้จริง ซึ่งส่วนประกอบที่สำคัญของแพลตฟอร์มและสถาปัตยกรรม EcoStruxure Plant ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือ Tricon CX version 11.3 มีการออกแบบที่มั่นคงปลอดภัย ให้ประสิทธิภาพ และขีดความสามารถในระดับสูง

รวมถึงให้ความยืดหยุ่นตลอดอายุการใช้งาน ทั้งนี้ EcoStruxure เป็นแพลตฟอร์มและสถาปัตยกรรมระบบเปิดของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ให้ศักยภาพด้าน IoT ให้ความสามารถในการทำงานร่วมกัน โดย EcoStruxure ยังให้คุณค่าเสริมในเรื่องความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ให้ประสิทธิภาพ ความยั่งยืน

รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อสำหรับลูกค้า นอกจากนี้ EcoStruxure ยังให้ความล้ำหน้าด้าน IoT โมบิลิตี้ ระบบเซ็นเซอร์ คลาวด์ การวิเคราะห์ และระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ เพื่อมอบนวัตกรรมในทุกระดับ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ระบบควบคุมการใช้อุปกรณ์ปลายทาง (Edge Control) และแอปพลิเคชัน

รวมถึงการวิเคราะห์ และบริการต่างๆ โดยที่ผ่านมา EcoStruxure ได้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 480,000 ไซต์งาน โดยมีผู้วางระบบ และผู้พัฒนากว่า 20,000 รายให้การสนับสนุน ซึ่งมีการเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับอุปกรณ์มากกว่า 1.6 ล้านรายการ โดยมีการบริหารจัดการ ผ่านบริการด้านดิจิทัลมากกว่า 40 บริการ

ข้อดีของการผ่านมาตรฐานการรับรองทั้งเรื่องการปกป้อง และรักษาความปลอดภัย รวมถึงการบังคับใช้งานที่สอดคล้องตามมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดของอุตสาหกรรม ด้วยการการออกแบบที่สอดคล้องตามกระบวนการด้านการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยตลอดอายุของผลิตภัณฑ์ (Security Development Lifecycle)

มั่นใจได้ว่า Tricon CX version 11.3 มีความปลอดภัยในระดับสูงสุด

ช่วยปกป้อง และยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง

Schneider Electric

ซึ่ง Tricon CX version 11.3 controller รุ่นล่าสุด นี้จะใช้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่อยู่ใน EcoStruxure Triconex ในการรักษาความปลอดภัย ให้ความต่อเนื่องในการทำงาน ให้การปกป้องที่ได้รับการพิสูจน์ และยอมรับจากการใช้งานจริง

โดยให้ศักยภาพยอดเยี่ยม เรื่องความต่อเนื่องในการทำงาน และให้ประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งานเพื่อการปกป้องแอปพลิเคชันสำคัญทางธุรกิจ ครอบคลุมถึงเรื่องกรณีฉุกเฉิน (emergency shutdown) รองรับระบบไฟและแก๊ส ระบบการจัดการการเผาไหม้

รวมไปถึงระบบควบคุมและตรวจสอบแรงดัน (high integrity pressure protection and control) และเมื่อผสานรวมการออกแบบที่กระทัดรัด ทำให้ Tricon CX มีขนาดที่เล็กว่า Tricon รุ่นเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์ Tricon CX version11.3 เป็นแนวคิดในอุดมคติสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความอันตรายสูง

ซึ่งขนาดของพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ระบบยังสามารถปรับขยายรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้าในเวลาที่ธุรกิจเติบโต โดยสามารถรองรับ I/O ได้มากกว่า 750,000 จุด และเนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวใช้เครื่องมือในการตั้งค่าการทำงานแบบเดียวกับ Tricon รุ่นเดิม

จึงช่วยให้วิศวกรสามารถทำการติดตั้ง ปรับแต่งและดำเนินการได้อย่างปลอดภัย พร้อมดูแลรักษาระบบงานได้ต่อเนื่องในระยะยาวนานหลายสิบปี  ผลที่ได้ก็คือ ผู้ใช้งานปัจจุบันสามารถปกป้องการลงทุนใน Tricon พร้อมปรับขยายการใช้งานได้ตามต้องการ

โดยไม่กระทบกระเทือนการดำเนินงาน ผู้ที่ใช้ Tricon CX เวอร์ชั่น 11.3 รุ่นใหม่นี้ จะได้ประโยชน์จากระบบความปลอดภัยที่ทรงพลังมากที่สุดจากระบบ Tricon และ Trident Safety Integrity Level 3 ซึ่งสามารถขยายขีดความสามารถรองรับอนาคตได้อย่างง่ายดาย

เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน โดยมุ่งเน้นที่การมอบคุณค่า

นอกจากนี้ Tricon CX version 11.3 เป็นรุ่นที่มีการปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้น ใช้พื้นที่น้อยลง ใช้เวลาในการออกแบบน้อยลง ใช้งานง่าย และลดการเดินสายไฟน้อยลง ใช้เวลาในการดำเนินงานได้น้อยลงถึง 25% ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง 30% และเพิ่มผลิตผลได้ 5%

Schneider Electric

 

นอกจากนี้ Tricon CX version 11.3 ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยที่หลากหลายของ EcoStruxure Triconex ซึ่งประกอบได้ด้วย

  • ระบบตรวจสอบความปลอดภัย ที่จะทำการทดสอบ ประเมินการทำงาน และจัดทำเอกสารเกี่ยวกับ application logic ของระบบความปลอดภัย EcoStruxure Triconex ซึ่งช่วยประหยัดเวลาการทดสอบซอฟต์แวร์ได้มากถึง 40%
  • SIF Manager จะติดตามและตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบเครื่องมือวัดความปลอดภัย (Safety Instrumented Function) ตลอดช่วงระยะเวลาการใช้งานภายในโรงงาน
  • Safety View ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันที่ได้รับการรับรองจาก TÜV-certified ที่ให้มุมมองเชิงลึกในการแจ้งเตือนเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการ ช่วยเพิ่มศักยภาพ และประสิทธิภาพในการดำเนินการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยง
  • System Auditor เครื่องมือที่เป็นหัวใจหลักสำหรับงานด้านเอกสารของระบบความปลอดภัย EcoStruxure Triconex พร้อมช่วยบริหารจัดการเกี่ยวกับการแจ้งเตือน
  • Tricon, Trident และ Tri-GP เอดจ์ คอนโทรลเลอร์ ที่มอบความเสถียรและความต่อเนื่องในการทำงานในระดับสูง

มุ่งนำเสนอฟีเจอร์ที่เน้นเรื่องการมอบคุณค่า จึงทำให้สามารถลดต้นทุนในภาพรวมให้กับลูกค้าได้ถึง 9%

ด้าน สตีฟ เอลเลียต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดอาวุโส ระบบควบคุมกระบวนการด้านออโตเมชั่น และความปลอดภัยของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า นอกจากนี้ด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบในลักษณะ triple redundant ที่ให้ความเสถียรสูง มีระบบบริหารจัดการ redundancy ในตัวเอง

ให้ความสามารถในการเปลี่ยนโมดูลและปรับแต่งการทำงานผ่านระบบออนไลน์ได้ จึงเป็นการพิสูจน์ว่า Triconex CX version 11.3 ช่วยให้ผู้ประกอบการผลิตเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้ถึง 11% ซึ่งลูกค้าของเรา โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความเสี่ยงต่ออันตรายสูง และมีกระบวนการทำงานหนัก ๆ

ต้องการประสิทธิภาพความปลอดภัยในระดับสูงสุด พร้อมกับได้รับประสิทธิภาพทางธุรกิจและผลกำไรสูงสุด เนื่องจาก Tricon CX version 11.3 ช่วยให้บุคลกรในโรงงานสามารถระบุ วางแผน และบริหารจัดการการดำเนินงาน รวมถึงความเสี่ยงทางธุรกิจ จึงทำให้ Tricon CX version 11.3

นอกจากจะช่วยลดการเกิดดาวน์ไทม์ และการขัดข้องในส่วนการผลิตแบบไม่คาดคิดแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าของเราเปลี่ยนการบริหารจัดการกระบวนการด้านความปลอดภัยที่เป็นต้นทุน ให้กลายเป็นผลกำไรได้ดีมากขึ้น 

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ EcoStruxure Triconex Tricon webpage.

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.schneider-electric.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่