เอไอเอส ลุยงานจัดงาน AIS ACADEMY for THAIs: Intelligent Nation Series หวังช่วยถอดสลักความคิดผู้ประกอบการให้ตามทันเทคโนโลยี เพิ่มพูนทักษะ และสร้างวัฒนธรรมใหม่ ๆ

ถึงวันนี้ หลายคนต่างรู้กันดีแล้วว่า Digital Disruption คือการก่อร่างของเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาทำลายล้างวิธีการ ความคิด พฤติกรรม หรือสิ่งที่เราเคยทำอยู่ก่อนหน้าหรือในปัจจุบันให้เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ร่องรอยของสิ่งที่มาทำลายนั้น คือ “โอกาส” ของการริเริ่มทำสิ่งใหม่ที่ท้าทายมากขึ้น และตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้มากยิ่งขึ้น

AIS ACADEMY for THAIs : Intelligent Nation Series

ในงาน AIS ACADEMY for THAIs: Intelligent Nation Series ที่ผ่านมา มีหลายมุมความคิดจากผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ ทั้งระดับประเทศและระดับโลก มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ และนำแง่มุมจากประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับความท้าทายของเทคโนโลยี

ซึ่งบทเรียนต่างๆ ที่ได้เรียนรู้จากการลงมือทำ ถือเป็นแต้มต่อที่ช่วยผลักดันให้หลายธุรกิจสามารถก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี และพลิกเกมจนสามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด มาจนวันนี้ Digital Transformation คงไม่ใช่หน้าที่ของใครคนหนึ่ง

แต่การขับเคลื่อนประเทศจะต้องใช้ “แรง” จากทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยกัน เช่นเดียวกับในครั้งนี้ เอไอเอส ขันอาสาขอเป็นตัวกลางเชื่อมโยงทุกคนทุกฝ่าย และคนไทยทุกคน มาพัฒนาองค์ความรู้บนโลกเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเสริมทักษะและสร้างวัฒนธรรมของการแบ่งปันร่วมกัน  

คนรุ่นใหม่ อาจไม่ได้ถูกแบ่งตามจำนวนตัวเลขตามปีเกิดของแต่ละคน หากแต่เป็นคนที่รู้จักและรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล พร้อมมีศักยภาพในการดึงเอาความสามารถของเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด

AIS

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติและความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ เอไอเอส อะคาเดมี่ ที่ได้มีโอกาสรับใช้สังคมไทยอีกครั้ง

ภายใต้บริบทความเชื่อที่ว่าการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมไทยและการคิดเผื่อ AIS มีความเชื่อว่า การเติบโตเพียงลำพัง ไม่ใช่การเติบโตที่แท้จริงและยั่งยืน แต่องค์ความรู้ใหม่ๆ จากบทเรียนของมืออาชีพ จะเป็นตัวจุดประกาย และช่วยยกระดับความรู้ของคนไทยให้มีความแข็งแกร่งและเข้าใจเรื่อง “Digital Disruption” ได้ดียิ่งขึ้น

AIS

วันนี้ Digital Transformation กลายเป็นคำที่คุ้นหูและได้ยินบ่อยครั้งตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องใกล้ตัว แต่โจทย์ที่ยากกว่านั้น คือความเข้าใจของคนที่แตกต่างกันออกไป เอไอเอส จึงเชื่อว่า องค์ความรู้เรื่อง Digital Disruption จะเป็นส่วนช่วยเสริมความแข็งแกร่ง

และเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันให้ทัดเทียมกับนานาประเทศได้ เพราะโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โลกที่แคบลง โลกที่สื่อสารกันด้วยเทคโนโลยี เริ่มทำให้บริบทของการดูแลลูกค้า บริบทของการตอบสนองผู้บริโภคมีความแตกต่างออกไป

นับต่อจากนี้ เอไอเอส อะคาเดมี่ จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางและชักชวนพันธมิตรทางธุรกิจและประชาชนคนไทย มาช่วยยกระดับความรู้ทางเทคโนโลยีในวงกว้างมากขึ้น โดย เอไอเอส หวังว่า แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นจากการจัดงานครั้งนี้ จะช่วยส่งไม้ต่อไปยังภาคส่วนต่างๆ ของสังคมไทยให้เกิดการตื่นตัว มีทักษะความสามารถทางเทคโนโลยีที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน

การเปลี่บนแปลงที่ปกติ!!

AIS

ปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า วันนี้เรื่องของการเปลี่ยนแปลง หรือกระแสของ “Digital Disruption” คือ “Disruption is the new normal”

ผู้ประกอบจากวันนี้ต้องมองเรื่องของการเปลี่ยนแปลงว่าคือเรื่องที่ปกติ ไม่ว่าเทคดนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างอย่างไร ก็จำเป็นต้องเผชิญหน้า และปรับตัวให้ทันอยู่เสมอ วันนี้เราเห็นแล้วว่ารูปแบบของการทำธุรกิจนั้นไม่ได้ถูกยิดติดในรูปแบบเดิม แต่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการ และรูปแบบ ตัวอย่างที่กลายเปลี่ยนไป

และกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของผู้ทำธุรกิจเดิม อาทิ UBER, Airbnb และ Facebook ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่ไม่ได้เป็นเจ้าของรถ ที่พัก หรือคอนเทนต์ของตัวเอง แต่ได้ใช้ประโยชน์ของการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างแพลตฟอร์มที่ทรงประสิทธิภาพ จนสร้างรายได้อย่างมหาศาลไปทั่วโลก

อย่างไรก็ดี ขณะเดียวกัน หากมองกลับมาที่การบริหารจัดการภายในองค์กร ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงบนโลกเทคโนโลยี ยังมีสิ่งที่น่ากังวลภายในองค์กรมีอยู่ 3 เรื่อง คือ ปัจจัยทางการตลาด, เทคโนโลยี และทักษะ ที่วันนี้อยังตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

สำหรับการปรับตัวในสถานการณ์ Digital Disruption ในแง่มุมของภาคธุรกิจ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่ม Dancing with Disruption คือ กลุ่มที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง รับรู้และยอมรับการเกิด Digital Disruption และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงการทำงานให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น

กลุ่ม Trust in the journey คือ กลุ่มที่รับฟัง Feedback จากผู้ใช้งานหรือลูกค้า มาเป็นเสียงสะท้อนในการปรับปรุงแก้ไข พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า, กลุ่ม Orchestrating the future คือ กลุ่มที่คำนึงถึง Business Model ใหม่ๆ และมีการเตรียมแผนพร้อมรับมือสำหรับอนาคต และกลุ่ม Innovation in motion คือ กลุ่มที่นำเอา Innovation หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ที่สอดรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

วันนี้หากต้องการแข่งขัยได้อย่าทัดเียมสิ่งที่ต้องเร่งเครื่อง ปรับตัวคือการสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กร และการส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ของพนักงานจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้บุคลากรภายในองค์กรมองไปในทิศทาง และเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งจะนำไปสู่การออกแบบนวัตกรรม หรือสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้ 

AIS

ด้าน Mr. Mitch Lowe Co-founding Executive of Netflix กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จนั้นไม่ได้มาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากการลองผิดลองถูก เรียนรู้ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ย้อนกลับไป 20 ปีก่อน Netflix พยายามหาหนทางแก้ไข Pain Point ของผู้บริโภค ในการทำให้การรับชมภาพยนตร์สามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้าน

และเชื่อว่า ความบันเทิงกำลังจะเปลี่ยนไปสู่รูปแบบดิจิทัล สามารถรับชมได้ผ่านทางหน้าจอที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Laptop และจอโทรศัพท์มือถือ จนในที่สุด เทคโนโลยีได้ถูกพัฒนาขึ้นจน Netflix สามารถ Launched Streaming ได้เป็นครั้งแรกในปี 2008

ซึ่งหลังจากนั้น Netflix ยังคงพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรับชมอย่างต่อเนื่องแบบไม่สะดุด และสามารถเลือกรับชมตอนต่อไปได้ในทันที ถือเป็นความแตกต่างที่สร้างคุณค่าและได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมที่เข้าชมผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลายในทั่วทุกมุมโลก

ปัจจุบัน Netflix มีผู้ติดตามอยู่ใน 130 ประเทศทั่วโลก Mitch พูดถึงกุญแจสู่ความสำเร็จ 3 อย่าง คือ

  • บุคลากร (People) เป็นทรัพยากรที่สำคัญ จะต้องเป็นผู้ขวนขวายความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อจะเป็นหนทางในการเพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง
  • วัฒนธรรม (Culture) ที่จะส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ ซึ่งเกิดจากความชัดเจนในการกำหนดทิศทางและเป้าหมายขององค์กร บุคลากรจะมุ่งไปสู่จุดหมายเดียวกัน
  • ความเป็นผู้นำ (Leadership) กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆ

อย่ากลัวที่จะตัดสินใจผิด เพราะส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมในการสร้างนวัตกรรม คือการทำผิด

เพราะเราไม่มีทางที่จะทำอะไรผิดหมด เราจะต้องลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ดังนั้น องค์กร จะต้องสร้างวัฒนธรรมที่ให้คนกล้าลองทำในสิ่งที่ผิดพลาดได้

เดินธุรกิจอย่างไรเมื่อโลกไร้พรมแดน

AIS

ชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มบริษัท เซ็นทรัลกรุ๊ป กล่าวว่า พื้นฐานของการเคลื่อนของเทคโนโลยี ประกอบไปด้วย 3 Ex ได้แก่ Exponential คือ การเติบโตอย่างก้าวกระโดด Exclusivity การมีทรัพย์สินทางปัญญา หรือนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นภายในองค์กร

และ Execution การบริหารจัดการให้สำเร็จ ขณะเดียวกัน Business Model จะต้องปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภค Data โดยเฉพาะ Moving Data เป็นเรื่องที่ธุรกิจควรให้ความสำคัญ และนำมาใช้ประโยชน์

AIS

ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือ การสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง Digital Literacy ให้แก่ประชาชนในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ควรสร้างมาตรฐานด้าน Cyber Security ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม หน่วยงานภาครัฐ มุ่งที่จะสร้างแพลตฟอร์ม

เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น พร้อมประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนในการนำข้อมูลที่เปิดเผยได้ ไปใช้ประโยขน์แก่สังคมโดยรวม

AIS

ขณะที่ มารุต ชุ่มขุนทด CEO & Founder Class Café ได้ให้ความเห็นว่า ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเป็นเรื่องธรรมชาติ เราต้องกล้าที่จะแข่งขัน เอาเทคโนโลยีมาเป็นอาวุธ Big Data จะทำให้รู้จักลูกค้าที่เข้ามาในร้านกาแฟมากขึ้น

แต่เทคโนโลยีมีต้นทุนด้านราคา เราจึงต้องหาพันธมิตรมาช่วยในการจัดการ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ความกล้าที่จะคิดใหม่ เพราะความผิดหวัง เป็นหนทางหนึ่งสู่ความสำเร็จในอนาคต

AIS

ด้าน อราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT และเครือข่าย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอส ให้ความสำคัญกับพนักงาน จึงได้มีการปรับสภาพเเวดล้อมต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง อีกทั้ง มีการใช้ Learning Platform ต่างๆ

ที่จะช่วยเพิ่มทักษะทางดิจิทัลให้กับพนักงานด้วย ส่วนการทำงานเพื่อรับมือกับ Digital Disruption นั้น องค์กรจะต้องมีวิสัยทัศน์เดียวกัน มีเเพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อข้อมูลทุกอย่างเข้าหากัน มีการสร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกัน ส่งเสริมการทำงานให้สนุก และทำงานประจำให้เป็น Automation และโฟกัส เรื่อง Creativity

AIS

ขณะที่ Mr.Jonas Kjellberg Co-Creator of Skype, Digital Transformation Speaker ได้ให้ความเห็นว่า ปัญหาหลักของการเป็นผู้นำ คือความยากในการสร้างยอดขาย เพราะหากไม่มีลูกค้า ก็จะไม่มีเงินทุนในการสร้างกำไร และการเติบโต

วันนี้เราต้องคิดใหม่ หาวิธีการ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ โดยดูว่าเทคโนโลยีจะมาช่วยเราอย่างไรได้บ้าง ในอนาคตอัตราการใช้โทรศัพท์ทางไกลลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะลดลงเหลือศูนย์ ดังนั้น หากให้แนะนำก็ต้องบอกว่าอาจจะต้องให้คนโทรใช้งานฟรี!!

วันนี้ต้องคิด “นอกกรอบ” ในการกำหนดกลยุทธ์ ในปัจจุบัน เพื่อค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำกำไร โดยไม่เรียกเก็บเงินจากผู้ใช้เพื่อโทรออก โดยสร้างให้ผู้ใช้ตระหนักว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายโดยใช้อินเทอร์เน็ต (ซึ่งลูกค้าพร้อมจะจ่าย) แทนที่จะใช้โทรศัพท์ ซึ่งมีราคาแพง

ประการที่สอง เมื่อผู้ใช้คลิกปุ่ม “แนะนำ” หลังจากใช้ Skype โปรแกรมจะเปิดอีเมลของผู้ใช้งาน และส่งอีเมลไปยังผู้ติดต่อในรายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมดว่า “ขณะนี้ฉันกำลังใช้ Skype และมันฟรี”

 “การคิดค้น โดยไม่เลียนแบบมันเป็นเรื่องยากจริงๆ แต่คุณต้องคิดใหม่ ในเกมของคุณ

สิ่งที่คุณจะต้องถามในการทำธุรกิจของคุณคือ คุณขายอะไร ขายให้ใคร และอย่างไร แต่ที่สำคัญกว่านั้น ทำไมคุณถึงทำเช่นนั้น โดยสรุปมีอยู่ 3 ประเด็น คือ เราต้องคิดนอกกรอบ เพื่อค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำกำไร คุณต้องคิดใหม่ในเกมของคุณ

และต้องค้นหาวิธีใหม่ ๆ ในการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจปัจจุบัน เพื่อประสิทธิภาพที่มากขึ้น โดยเลือกใช้เทคโนโลยีที่มี ให้เหมาะสม และทำให้เกิดสินค้าใหม่ๆ  โดยเราต้องรู้ status ของคู่แข่ง และ ต้องรู้จัก และเข้าใจลูกค้า ว่าต้องการอะไร คุณขายอะไร ให้กับใคร และอย่างไร แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ทำไมคุณถึงทำเช่นนั้น?

AIS

ACADEMY for THAIs: Intelligent Nation Series ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณความตื่นตัวของคนไทยที่รับรู้ตรงกันว่าวันนี้ เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา ขณะเดียวกัน เทคโนโลยียังเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยต่อเติมโอกาสต่างๆ ได้อย่างมากมาย สามารถสร้าง Productivity สร้างทักษะความรู้ใหม่ๆ จนเกิดเป็น Creativity ตลอดจนการสร้างสรรค์วัฒนธรรม ที่ส่งผลให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจจนกลายเป็น Ecosystem ที่แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน กานติมา กล่าวสรุป

AIS

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง 
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่