บริษัทต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรม ต่างมุ่งพัฒนากลยุทธ์เกี่ยวกับการจัดการข้อมูล (Data Management) เพื่อเก็บเกี่ยว และใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ…

highlight

  • ข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดขององค์กร การประกอบธุรกิจ และกระบวนการทำงานต่าง ๆ ล้วนพึ่งพา และอาศัยข้อมูลในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งผลสำรวจชี้ว่า ข้อมูลสามารถเพิ่มมูลค่า และได้รายได้ให้กลุ่มประเทศ G7 มากกว่า 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เลยทีเดียว
  • เอ็กพีเรียนซ์เผยว่าผู้บริหารในประเทศสหรัฐอเมริกา 89% เชื่อว่าข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพจะทำลายประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า
  • ผลการวิจัยของการ์ทเนอร์ (gartner) ข้อมูลคุณภาพต่ำสร้างความสูญเสียเฉลี่ย 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขณะที่เกือบ 60% ไม่มีการตรวจสอบต้นทุนทางการเงินที่สูญเสียในแต่ละปีที่เกิดจากข้อมูลที่มีคุณภาพต่ำ

Data ที่ไม่มีคุณภาพกับภาระค่าใช้จ่ายขององค์กร

ในยุคที่เศรษฐกิจถูกผลักดัน และเติบโตด้วยการขับเคลื่อนของดิจิทัล ข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดขององค์กร การประกอบธุรกิจ และกระบวนการทำงานต่าง ๆ ล้วนพึ่งพา และอาศัยข้อมูลในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งสิ้น

ผลการศึกษาของ Digital Realty ระบุว่าข้อมูลสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่มประเทศ G7 หรือกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจร่ำรวยที่สุดในโลก 7 ประเทศได้มากกว่า 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเทียบเท่ากับประเทศที่มีระดับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก นำหน้าประเทศเกาหลีใต้ รัสเซีย และแคนาดาเลยทีเดียว

บริษัทต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรม ต่างมุ่งพัฒนากลยุทธ์เกี่ยวกับการจัดการข้อมูล เพื่อแยกแยะจัดลำดับความสำคัญ เก็บเกี่ยวและใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ องค์กรจำนวนมากต้องเผชิญกับปัญหาที่แอบแฝงอยู่ในข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพ

ซึ่งอาจฉุดรั้งให้องค์กรขับเคลื่อนได้ช้าลง หรือทำลายความสามารถในการแข่งขัน และกีดขวางการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ซึ่งข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพ คือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ เข้าใจยาก สับสนปะปน ไม่สัมพันธ์กัน และล้าสมัย ในทางปฏิบัติข้อมูลเหล่านี้ทำให้เสียเวลา สร้างความสับสนให้นักวิเคราะห์ข้อมูล และสิ้นเปลืองเวลา

Data

ในการเชื่อมโยงระบบไอทีต่างๆ ที่ไม่สามารถสื่อสารกันได้ ซึ่งมักจะทำให้องค์กร และผู้ใช้ขาดความเชื่อมั่นต่อ “ตัวเลข” และผู้บริหารไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ตัดสินใจทางธุรกิจได้ในที่สุด ปัจจุบันในองค์กรใหญ่หลายแห่งต้องฝ่าฟันกับเรื่องของความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลที่ใช้ในธุรกิจแต่ละวัน

แต่ข่าวร้ายก็คือแทบไม่มีองค์กรใดในอุตสาหกรรมไหนเลยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ และหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนอาจส่งผลให้เสียโอกาสทางธุรกิจ และเกิดความสูญเสียทางการเงิน และชื่อเสียงขององค์กรได้ อีกทั้งประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากการใช้สินค้าและบริการต่าง ๆ มักถูกใช้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ

และความนิยมของแบรนด์นั้นๆ จึงต้องระวังว่าข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสำเร็จของแบรนด์ได้ ดังจะเห็นได้จาก ผู้บริหารในประเทศสหรัฐอเมริกา 89% เชื่อว่าข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพจะทำลายประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า

 

Data

ผลการวิจัยของการ์ทเนอร์ (gartner) พบว่า องค์กรต่างๆ เชื่อว่า ข้อมูลคุณภาพต่ำสร้างความสูญเสียเฉลี่ย 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลของบริษัทต่างๆ ทำให้สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับข้อมูลและข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลมีความซับซ้อนมากขึ้น ความเสียหายต่าง ๆ ก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น

นอกจากว่าปัญหาข้อมูลไม่มีคุณภาพเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขได้ทันท่วงที ซึ่งวันนี้ บุคลากร รวมถึงบริษัทหลายๆ แห่งที่ยังการขาดการตระหนักถึงความจำเป็นในการดูแลเอาใจใส่ข้อมูล บริษัทหลายแห่งยังไม่มีภาพที่ชัดเจนของข้อมูลที่ตนมีอยู่ ในทางตรงกันข้ามกันบริษัทที่ชำนาญการด้านข้อมูล

Data

เช่น Amazon, Google และ Airbnb ต่างใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนในการวางแผน และสร้างแบบจำลองพฤติกรรมลูกค้า เพื่อปรับปรุงการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้องค์กรต่าง ๆ เกือบ 60% ไม่มีการตรวจสอบต้นทุนทางการเงินที่สูญเสียในแต่ละปีที่เกิดจากข้อมูลที่มีคุณภาพต่ำ 

ทั้งนี้ องค์กรชั้นนำที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลจะปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการวัดมูลค่าของสินทรัพย์ที่เป็นข้อมูลของตน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากข้อมูลที่มีคุณภาพต่ำ และมูลค่าของข้อมูลที่มีคุณภาพดี การปฏิบัติเช่นนี้ช่วยให้องค์กรเหล่านี้มีความได้เปรียบเชิงธุรกิจ

6 ขั้นตอนในการบริหาร Data ภายในองค์กรในยุคปัจจุบัน

ทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์ ให้ความเห็นว่า วันนี้ทุกองค์กรมีความเห็นตรงกันอย่างหนึ่งและได้รับการยอมรับในวงกว้างว่า ข้อมูลเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับองค์กร โดยช่วยเพิ่มมูลค่าที่แท้จริงและสร้างประโยชน์ให้แก่ธุรกิจอย่างมาก แต่กลับเห็นได้ชัดเจนว่า ไม่มีการตระหนักรู้เกี่ยวกับข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพ

และผลเสียที่ข้อมูลไม่มีคุณภาพเหล่านั้นทำให้เกิดขึ้นกับชื่อเสียง ประสิทธิภาพ และการสร้างผลกำไรของธุรกิจได้ การที่เราต้องพึ่งพาข้อมูลมากขึ้นทำให้มูลค่าของข้อมูลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การดูแลและจัดการข้อมูลอย่างถูกวิธีจะทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเป็นสินทรัพย์ที่จะช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด ในทางตรงข้ามกัน

หากบริหารจัดการข้อมูลอย่างไม่ถูกวิธี ข้อมูลเหล่านั้นอาจสร้างความถดถอยให้กับองค์กรได้อย่างที่เราคิดไม่ถึงเลยทีเดียว ดังนั้นการตระหนักรู้ถึงค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่เกิดจากการมีข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพในองค์กร เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลต่อความอยู่รอดของทุกองค์กรที่อยู่ในยุคที่ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนอนาคต

วันนี้องค์กรชั้นนำที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลในวันนี้จำเป็นต้องปรับวิธีการในการจัดเก็บ และรวบร่วมข้อมูลทั้งหมด เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงธุรกิจ และสามารถบริหารจัดการข้อมูลภายในองค์กรของตนได้ ซึ่งวิธีง่าย ๆ ที่เราขอแนะนำได้แก่

รวมศูนย์ การตรวจสอบและแก้ไขชุดข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพนั้นไม่สามารถสำเร็จได้ในครั้งเดียว แต่ต้องมองในระยะยาว โดยเริ่มต้นจากการที่ไม่ต้องสนใจว่าข้อมูลนั้นๆ เข้ามาในบริษัทผ่านช่องทางใดบ้าง

และให้ความสนใจกับกลยุทธ์การบริหารจัดการข้อมูลด้วยการรวมข้อมูลเหล่านั้นไว้ที่ศูนย์กลาง แล้วค่อยๆ พัฒนาเพื่อให้เกิดการตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลเหล่านั้นได้

ผสานเป็นหนึ่ง องค์กรขนาดใหญ่มักจะมีฐานข้อมูลจำนวนมากที่ใช้งานอยู่ตามแผนกต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลจากแหล่งอื่นที่องค์กรไม่คาดคิดมาก่อน การที่องค์กรที่มีหน่วยงานสาขาหลายแห่งตั้งอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ

ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ควรรวบรวมและแยกแยะฐานข้อมูล และข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยลดการสร้างข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพ และสร้างมาตรฐานให้กับข้อมูลของบริษัท

กำหนดมาตรฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลจะทำให้มีความเข้าใจข้อมูลนั้นมากขึ้น สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้บริษัทพบกับปัญหาจากข้อมูลไม่มีคุณภาพ คือการขาดมาตรฐานในกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูล

ซึ่งมาตรฐานที่ถูกกำหนดนั้นไม่เพียงแค่ใช้ในบริษัทเท่านั้น แต่ต้องใช้กับซัพพลายเออร์และพันธมิตรด้วย เพื่อช่วยกันสร้างข้อมูลที่มีคุณภาพให้กับองค์กรได้มากที่สุด

ตรวจสอบ ทำความเข้าใจลักษณะความผิดพลาดของข้อมูลด้วยการมองหาข้อมูลความสัมพันธ์ของข้อมูลต่าง ๆ จากพื้นฐาน เพื่อทำความเข้าใจลักษณะความผิดพลาดของข้อมูลที่เกิดขึ้น ขั้นตอนนี้เป็นโอกาสหนึ่งที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดและทำให้ข้อมูลกลับมามีคุณภาพได้

ขจัดความซ้ำซ้อน ข้อมูลที่ซ้ำซ้อนเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของความไม่ถูกต้องของข้อมูลที่เกิดจากการมีฐานข้อมูลหลายแหล่งบวกกับกระบวนการทำงานที่ผิดพลาดจากการทำงานของคน การใช้กระบวนการผสานรวมฐานข้อมูลเป็นการขจัดความซ้ำซ้อนและนำสู่การสร้างมาตรฐานในการเก็บข้อมูล

ซึ่งแม้จะใช้เวลาแต่จำเป็นต้องทำเพื่อให้สามารถเข้าใช้งานข้อมูลลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจทางธุรกิจ

สะสางสิ่งที่ไม่มีคุณภาพ แพลตฟอร์มคลาวด์ต่าง ๆ โดยเฉพาะไฮบริดคลาวด์ มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการทำให้ข้อมูลมีคุณภาพด้วยเครื่องมือในการสะสางข้อมูลที่มีอยู่อย่างมากมาย

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่