นวัตกรรมทางธุรกิจที่มีเป้าหมายในการแก้ปัญหาในสังคมมนุษย์ อันนำไปสู่การสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ โดย บริษัท ฟูจิตสึ ลิมิเต็ด จำกัด ใช้กรณีศึกษาจาก บริษัท มิตซุย เคมิคอล อิงค์ จำกัด เป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ ที่มีความหลากหลายเป็นบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมากกว่า 100 ปี

ในปี 1902 เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตสารเคมีจากถ่านโค้ก ต่อมาได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในระยะเวลาอันรวดเร็ว และยังมีการเจริญเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีการขยายธุรกิจผลิตเรซินและผลิตภัณฑ์เคมีอุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมถึงสารเคมีพื้นฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน

มิตซุย เคมิคอล เริ่มต้นโปรแกรมการดำเนินการด้านนวัตกรรมทางธุรกิจที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาในสังคม โดยอิงจากกลยุทธ์ทางธุรกิจใน 3 แขนง อันได้แก่ เศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม

ผลลัพธ์ที่เรามุ่งหวังว่าจะได้รับจากนวัตกรรมเพื่อการพัฒนารูปแบบการพัฒนา คือการทำงานร่วมกันแบบเปิดทั่วทั้งองค์กร การแบ่งปันความรู้ในหมู่พนักงาน และการทำให้บริษัทของเรากลายเป็นบริษัทที่มีความคึกคักและสดใสในการทำงาน มาซาฮารุ คูบุ กรรมการผู้จัดการเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท บริษัท มิตซุย เคมิคอล อิงค์ จำกัด กล่าว

การใช้ฟูจิตสึเป็นตัวอย่างอ้างอิงในการดำเนินงานในแผนการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าของมิตซุย เคมิคอล การทำให้ภาคส่วนเป้าหมายทั้ง 3 แข็งแกร่งขึ้นไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น บริษัทยังมีการจัดทำโครงการนวัตกรรมเพื่อพัฒนารูปแบบการทำงาน ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้กับพนักงานทั้งหมดทุกคน โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ก็เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมทางธุรกิจให้กับบริษัท

โดยรวมโครงการนวัตกรรมเพื่อพัฒนารูปแบบการทำงานเริ่มต้นครั้งแรกในปลายปี 2013 ก่อนหน้าการเปิดตัวแผนธุรกิจกลางปีตามที่กล่าวข้างต้น หากพิจารณาถึงผลกระทบที่จะได้รับจากการสื่อสารที่ดีขึ้นในหมู่พนักงานทั่วทั้งมิตซุย เคมิคอล กรุ๊ป จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะต้องลงทุนทั้งในส่วนเครื่องมือและพื้นที่การทำงานในออฟฟิศ ที่จะกระตุ้นให้พนักงานมีการสื่อสารกันมากขึ้น

ดังนั้น นอกเหนือจากการนำระบบสารสนเทศใหม่มาใช้แล้ว ทางบริษัทยังต้องเริ่มใช้พื้นที่การทำงานในออฟฟิศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย โดยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารใหม่นี้ ไม่เพียงช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเปิดโอกาสให้พนักงานในแต่ละแผนกและทีมงาน มีการสื่อสารกันข้ามทีมข้ามแผนกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในการสร้างแผนดำเนินงานสำหรับเป้าหมายนี้ มิตซุย เคมิคอล ได้ใช้ฟูจิตสึเป็นตัวอย่างอ้างอิงเนื่องจากสำนักงานใหญ่ของทั้งมิตซุย เคมิคอล และฟูจิตสึ ตั้งอยู่ในตึกเดียวกันทั้ง 2 บริษัทจึงมีแปลนออฟฟิศที่เหมือนกัน

อย่างไรก็ดี ขณะที่ดำเนินการโครงการนี้ฟูจิตสึมีจำนวนพนักงานต่อชั้นมากกว่าที่มิตซุย เคมิคอล ถึงร้อยละ 40 และถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น การวางแผนการไหลของคนในชั้นที่ดี จึงเปิดโอกาสให้พนักงานมีการเดินไปมาในชั้นได้อย่างลื่นไหล เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดส่วนตัวออฟฟิศก็มีการออกแบบไม่เทอะทะและมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบคลาวด์และเครื่องมือการสื่อสารแบบครบวงจร (Unified Communications – UC) เข้ามาช่วยด้วย

นอกเหนือจากที่กล่าวไป มิตซุย เคมิคอล ยังยอมรับแนวคิดรูปแบบการทำงานที่ฟูจิตสึนำเสนอให้ใช้ด้วย หากพนักงานไม่ยอมเปลี่ยนวิธีการคิดของตนเอง ต่อให้มีสภาพแวดล้อมออฟฟิศใหม่ และการสื่อสาร

ที่หลากหลายขึ้น ก็ไม่มีทางที่จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นเลย พนักงานมิตซุย เคมิคอล จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ในด้านนวัตกรรม เพื่อพัฒนารูปแบบการทำงานในทิศทางเดียวกันทุกคน” ฟูจิตสึได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคู่ค้าของบริษัทในด้านนวัตกรรมเพื่อพัฒนารูปแบบการทำงาน

อนึ่ง โครงการนวัตกรรมเพื่อพัฒนารูปแบบการทำงานของมิตซุย เคมิคอล เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และบริษัทก็ยังจะมุ่งหน้าปรับปรุงนวัตกรรมเพื่อพัฒนารูปแบบการทำงาน ผ่านการนำแนวทางการปฏิบัติงานและแผนใหม่มาใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งรูปแบบการทำงานใหม่ในสำนักงาน และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารใหม่นี้มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด