บริษัทด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่าง Norton ประกาศเข้าซื้อกิจการคู่แข่งอย่าง Avast โดยเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ Avast มูลค่ามากกว่า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่า 1 ปีหลังจากการควบรวมกิจการรอบนี้ จะสร้างรายได้ประมาณ 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

วันนี้ (11 สิงหาคม 2564) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่าง NortonLifeLock (หรือ Norton) ประกาศเข้าซื้อกิจการของคู่แข่งอย่าง Avast โดยดีลการควบรวมกิจการครั้งนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ราวๆ 8,100-8,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยประมาณ ยึดราคาปิดของหุ้น NortonLifeLock อยู่ที่ 27.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564

Avast เป็นบริษัทจากสาธารณรัฐเช็ค ที่พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยมาอย่างยาวถึง 11 ปี ต่อมา Avast ได้เข้าซื้อกิจการของ AVG มาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

ส่วน Norton หลายคนรู้จักจากโปรแกรม Norton Antivirus ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2534 ได้รับความนิยมจากลูกค้ามาอย่างยาวนานถึง 30 ปี ต่อมา Symantec ได้ซื้อ Norton เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วย จากนั้น Symantec ได้ขายกิจการด้านความปลอดภัยระดับองค์กรไปให้กับ Broadcom เมื่อ 2 ปีก่อน

ทำให้ Symantec เดิม ที่ยังมี Norton หรือธุรกิจด้านความปลอดภัยฝั่ง Consumer อยู่ ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น NortonLifeLock นั่นเอง

โดยเมื่อปลายปี 2563 Norton ได้เข้าซื้อกิจการ Avira มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย

สรุปประวัติการซื้อกิจการซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย เป็นสมการง่ายๆ ได้ดังนี้
(Avast+AVG)+(NortonLifeLock+Avira) = NortonLifeLock

Vincent Pilette ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NortonLifeLock กล่าวในตอนหนึ่งของแถลงการณ์ ว่า “จากการควบรวมครั้งนี้ ทำให้พวกเราสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์ม cybersecurity ของเรา ที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 500 ล้านคน และพวกเราจะสามารถเร่งสร้างนวัตกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ในอนาคต”

บริษัททั้งสองคาดว่า คาดว่า 1 ปีหลังจากการควบรวมกิจการรอบนี้ จะผลักดันให้กำไรต่อหุ้น เพิ่มขึ้นด้วยเลขสองหลัก และคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และดีลดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จภายในช่วงกลางปี 2565

ที่มา [1] [2] [3]