Eleader january 2015

ช่วงเวลาต้นปีเช่นนี้หลายแบรนด์ก็เตรียมตัววางแผนกลยุทธ์การตลาดสำหรับปี 2558 กันแล้ว บ้างก็วางแผนกันตั้งแต่ปีผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามแน่นอนว่า หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ในลำดับต้นๆ ก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ หรือ Social Media ที่กลายเป็น The Must ของการตลาดออนไลน์ไปเสียแล้ว

ในช่วงเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์เอง ซึ่งคุณจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ให้สอดคล้องด้วยเช่นกัน ลองพิจารณาเทรนด์ต่อไปนี้ ที่อาจจะช่วยให้คุณกำหนดกลยุทธ์การตลาดออนไลน์เกี่ยวกับสื่อสังคมออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น

เทรนด์ที่ 1 โมบายต้องมาก่อน
แนวโน้มการใช้งานโมบาย ทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนมีสัดส่วนการใช้งานที่มากกว่ามือถือแบบเดิมหรือคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ สมาร์ตโฟนจะมีหน้าจอที่ใช้ใหญ่ ซึ่งเอื้ออำนวยให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 4G หรือ Free WiFi จึงทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโมบายมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น

เทรนด์ที่ 2 ของฟรีไม่มีในโลกสังคมออนไลน์
สำหรับแบรนด์ที่ใช้การตลาดด้วยเฟซบุ๊กเป็นประจำ คุณจะสังเกตว่าโพสต์ของคุณได้รับความสนใจหรือมีส่วนร่วมกับผู้ชื่นชอบลดลง ซึ่งก็สอดคล้องกับรายงานของ Forrester Research ที่ระบุว่า โพสต์ในเฟซบุ๊กจะมีการปฏิสัมพันธ์กับผู้ชื่นชอบเพียงร้อยละ 0.07 เท่านั้น ยังน้อยกว่าอินสตาแกรมด้วยซ้ำที่ร้อยละ 4.21

แต่ค่าใช้จ่ายโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น ซึ่งอธิบายได้ว่า แบรนด์ไม่สามารถคาดหวังในการเกิดการปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคด้วยวิธีธรรมชาติ (Organic) ได้ แบรนด์จะต้องใช้สื่อโฆษณาในการกระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์ขึ้นก่อน จากนั้นเมื่อโพสต์ของคุณได้มีปฏิสัมพันธ์ที่สูง โพสต์ของคุณก็จะได้รับความสนใจมากขึ้นให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นในไทม์ไลน์นั้นเอง

เทรนด์ที่ 3 เนื้อหาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ยังคงเจิดจรัส
ปี พ.ศ. 2558 ก็ยังคงเป็นปีของเนื้อหาอยู่ ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแบรนด์ของคุณได้ดี โดยเนื้อหาผ่านสื่อสังคมออนไลน์จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนและแชร์เนื้อหาของคุณได้ง่าย เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคอื่นๆ ในวงกว้าง

นักการตลาดจะต้องไม่ลืมที่จะเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณด้วยเช่นกัน ด้วยการนำเสนอที่น่าสนใจ เช่น วิดีโอ สไลด์ Infographic เป็นต้น และจะต้องผลิตเนื้อหาให้ครอบคลุมไปในทุกสื่อออนไลน์ด้วย เช่น เว็บไซต์ บล็อก อีเมล์ เว็บไซต์สังคมออนไลน์ เป็นต้น ซื่งผู้บริโภคจะต้องแชร์ได้ง่ายด้วย

เทรนด์ที่ 4 วิดีโอไม่ได้มีเพียงแค่ Youtube อีกต่อไปแล้ว
นักตลาดออนไลน์คิดว่าเพียงแค่นำวิดีโอโฆษณาอัพโหลด Youtube คาดหวังว่าจะเป็นช่องทางในการโปรโมตแบรนด์ และคิดว่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการตลาดด้วยวิดีโอ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะว่ายังมีช่องทางอีกมากมายนอกจาก Youtube ในการเผยแพร่วิดีโอของคุณ และบางช่องทางก็สามารถทำได้ดีกว่าด้วย เช่น Instagram หรือ Vine สำหรับวิดีโอสั้น หรือ Tumblr วิดีโอในรูปแบบของไฟล์ Gif เป็นต้น

เทรนด์ที่ 5 สังคมออนไลน์จะกระจัดกระจายมากขึ้น
เฟซบุ๊ก ยังคงเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ แต่เกมของเครือข่ายสังคมออนไลน์อาจจะเปลี่ยนแปลงไป เพราะเฟซบุ๊กไม่สามารถจะครอบคลุมได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ที่ไม่ใช้เฟซบุ๊กน้อยลงกว่าที่ผ่านมา จากรายงานของ Niche ในปี พ.ศ.2557 เกี่ยวกับกิจกรรมสังคมออนไลน์ที่วัยรุ่นใช้ในแต่ละวัน
อันดับหนึ่ง ส่งข้อความ (Texting) รวมไปถึง Whatsapp และ Line ร้อยละ 87
อันดับสอง Facebook ร้อยละ 61
อันดับสาม Youtube ร้อยละ 55
อันดับสี่ Instagram ร้อยละ 51
อันดับห้า Snapchat ร้อยละ 46

นักการตลาดจะต้องทราบว่าผู้บริโภคของคุณใช้สื่อสังคมออนไลน์ใด คุณจะมีกลยุทธ์ใดที่จะเข้าถึงพวกเขา ด้วยกลยุทธ์สื่อสารส่วนบุคคล (Personalization) เพื่อที่จะเข้าถึงผู้บริโภคของคุณได้ดีที่สุด

หวังว่าเทรนด์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับผู้บริโภคในยุคดิจิตอล ที่ผู้บริโภคมีอำนาจต่อรองมากขึ้น และเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะ ปี พ.ศ.2558 ปีที่การแข่งขันทางการตลาดน่าจะดุเดือดมากขึ้น