เมื่อปัญหาพื้นฐานในการจัดการเครือข่าย คือ “การมองไม่เห็นปัญหา” ทำให้ธุรกิจต้องลงทุนขยายเครือข่ายอย่างไร้ทิศทาง วันนี้ โซลูชันของ ImVision ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้ด้วยการมอนิเตอร์เครือข่ายแบบทะลุปรุโปร่ง มองเห็นทุกความเคลื่อนไหวในการเชื่อมต่อเครือข่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ
Business Continuity Management หรือ การบริหารจัดการความต่อเนื่องของธุรกิจ เป็นประเด็นที่ถูกกหยิบยกมาพูดถึงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เมื่อธุรกิจมีความเสี่ยงต่อภัยต่างๆ มากขึ้น ทั้งภัยจาก อัคคีภัย อุทกภัย ภัยจากการต่อการร้าย หรือกระทั่งความเสี่ยงพื้นฐานของธุรกิจ เช่น ไฟฟ้าดับ เซิร์ฟเวอร์ดาวน์ หรือ เครือข่ายสื่อสารมีปัญหา
ภัยเหล่านี้ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจต้องติดขัด หยุดชะงัก และบ่อยครั้งนำมาซึ่งความเสียหายมูลค่าสูงกับธุรกิจ ทั้งที่บางปัญหา สามารถแก้ไขป้องกัน หรือ บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพได้ เช่น การใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมาช่วยในการบริหารจัดการเครือข่าย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ เครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการประสิทธิภาพให้เครือข่ายที่เชื่อว่า ImVision
ImVision Automated Infrastructure Management (AIM) เป็นโซลูชันที่ช่วยมอนิเตอร์เครือข่ายเพื่อตรวจสอบปัญหา ผ่านกาเข้าถึงข้อมูลเครือข่ายในเชิงลึกซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยในการบริการจัดการเครื่อข่ายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดย ImVision จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพใน 3 ด้าน
การเพิ่มประสิทธิภาพและความจุการเครือข่าย
ด้วยความสามารถในการติดตามการใช้ประโยชน์จากการติดตั้งสายเคเบิลและการใช้พอร์ตสวิตช์ Imvision สามารถแสดงข้อมูลอุปกรณ์ที่มีการใช้งานอยู่แบบเรียลไทม์ เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อพอร์ตการใช้งานเต็ม ผู้ประกอบการมักจะจะแก้ปัญหาด้วยการซื้อพอร์ตเพิ่ม แต่ Imvision สามารถแสดงพอร์ตของระบบเน็ตเวิร์กตามที่มีการใช้งานอยู่จริง เพื่อแสดงให้คุณเห็นการงานทั้งหมดโดยละเอียด เพื่อให้คุณเลือกตัดสินใจซื้อพอร์ตเพิ่มตามความจำเป็นที่แท้จริงของระบบ
ปรับปรุงประสิทธิภาพให้เครือข่ายพร้อมใช้งาน
ImVision จะช่วยลดเวลาที่ต้องวุ่นวายกับ กระบวนการทำงานแบบแมนนวล การสร้างคำสั่งงานอิเล็กทรอนิกส์ และการเปิดใช้งานระบบช่วยเหลือในการจัดการ ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดจาก Human Errors และ Downtime Network ให้เหลือน้อยที่สุด จากการมอนิเตอร์เครือข่ายอย่างทั่วถึงแบบ end-to-end นั้นหมายถึง Imvision เข้าไปบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการระบบเน็ตเวิร์คล่ม Imvision จะวิเคราะห์และหาสาเหตุของการเกิดเหตุ พร้อมทั้งเข้าแก้ไขอย่างรวดเร็ว
ปรับปรุงเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การจัดการแบบ Real-time ในระดับสายส่งสัญญาณจะช่วยปรับปรุงมาตรฐานของ Switch Port ให้สามารถระบุตำแหน่งของสวิทซ์ และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงาน เมื่ออุปกรณ์ดังกล่าวไม่ถูกใช้งาน นอกจากนี้ระบบการจัดการแบบ Real-time ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เซิร์ฟเวอร์ และในกระบวนการทำงานอีกด้วย
ImVision เป็นแพลตฟอร์มแบบบูรณาการที่ช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพในการดูแลเครือข่ายแบบอัจฉริยะ ที่สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อเครือข่ายในระดับสายสัญญาณภายใต้มุมมองแบบองค์รวม เพื่อให้เห็นว่าเครือข่ายและอุปกรณ์บนโครงข่ายพื้นฐานมีการทำงานอย่างไร ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรบนเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ภายใต้ระบบการแสดงผลแบบ Dasboard ผ่านเครือข่าย Web Based ImVision ช่วยให่คุณดูแลเครือข่ายแบบอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและเก็บข้อมูลในโครงข่ายพื้นฐาน ตรวจสอบการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่างๆ บนเครือข่ายทั้งหมด เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการตัดสินใจดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับเครือข่ายได้
ข้อมูลแบบ Real-time เป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการประสิทธิภาพของเครือข่ายให้ดีขึ้น
…………………………….
Key Features
-การเชื่อมต่อแบบ End-to-end ระหว่างอุปกรณ์มีความถูกต้องและแม่นยำ
-ติดตามสถานะการเชื่อมต่อของเครือข่ายแบบเรียลไทม์
-มีการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในระบบที่ไม่ได้รับอนุญาติหรือไม่ได้ตั้งค่าไว้
-มีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัญหาในวงจรสำคัญ
-ค้นพบและติดตามการเชื่อมต่อเครือข่าย
-สามารถสร้างคำสั่งงานด้านอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนแนะนำการใช้งานได้
-มอบรายงานที่มีประสิทธิภาพเต็มรูปแบบ รวมทั้งรายงานที่ได้รับการตั้งค่าไว้ด้วย
-สามารถระบุทรัพยากรไอทีที่ไม่ได้ใช้รวมทั้งสายเคเบิล เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
-ช่วยลดความยุ่งยากและเพิ่มความคล่องตัวในขั้นตอนการทำงานผ่านระบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ
-ด้วยระบบ Web – based อัจฉริยะของ Imvision อนุญาติให้ผู้ใช้สามารถสังเกตุการณ์ขณะกำลังวางระบบโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทั้งติดตามดูอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบเน็ตเวิร์คในขณะนั้น
