Huawei เรียกร้องสหรัฐฯ เปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ยื่นคำร้องเพื่อขอสรุปคำตัดสินต่อศาล เร่งรัดกระบวนการเพื่อหยุดการกระทำผิดกฎหมายต่อหัวเว่ย…

highlight

  • หัวเว่ย ยัน สหรัฐฯ ไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าหัวเว่ยเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัย และนโนเองทั้งสิ้น แถมตัดพ้อ!! ห้ามไม่ให้หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ ซื้ออุปกรณ์ และบริการต่าง ๆ รวมไปถึงหน่วยงานดังกล่าวไม่ให้ทำสัญญา มอบเงินทุน หรือปล่อยเงินกู้ยืมให้กับบุคคลที่สามที่ซื้ออุปกรณ์หรือบริการของหัวเว่ย เป็นเรื่องไร้สาระ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบหรือความเชื่อมโยงใด ๆ กับรัฐบาลสหรัฐฯ การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างกับการรังแกหัวเว่ย แต่อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยเชื่อมั่นว่า ศาล สหรัฐฯ จะสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในกฎหมายการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ ได้ แต่เราอยากให้เร่งสรุป

Huawei จี้ ศาลสหรัฐฯ เร่งสรุปผล และหยุดรังแกทางกฎหมาย

หัวเว่ย ได้ยื่นคำร้องเพื่อขอสรุปคำตัดสิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคัดค้านในชั้นศาลต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 889 ของกฎหมายการป้องกันประเทศ ปี 2562 (2019 NDAA) ของสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติแคมเปญคว่ำบาตร หัวเว่ย เพราะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาความปลอดภัยทางไซเบอร์

ซ่ง หลิ่วผิง ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมาย ของหัวเว่ย กล่าวว่า การแบนหัวเว่ยโดยใช้ปัญหาความปลอดภัยทางไซเบอร์มาเป็นข้ออ้าง ซึ่งจะไม่ช่วยให้เครือข่ายปลอดภัยขึ้น และยังก่อให้เกิดความเข้าใจที่ผิด ๆ ในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาที่แท้จริงที่เรากำลังเผชิญอยู่

นักการเมืองสหรัฐฯ กำลังใช้อำนาจทั้งหมดของประเทศมาโจมตีบริษัทเอกชนเพียงแห่งเดียว

ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องปกติ และแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าหัวเว่ยเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัย เป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่มีที่มาที่ไป ทั้งหมดเป็นแค่การคาดเดาทั้งสิ้น โดยในกฎหมายมาตรา 889 ของกฎหมายการป้องกันประเทศ ปี 2562 ของสหรัฐฯ 

มีการระบุชื่อหัวเว่ยโดยตรง โดยนอกจากจะห้ามไม่ให้หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ ซื้ออุปกรณ์ และบริการต่างๆ จากหัวเว่ยแล้ว ยังห้ามหน่วยงานดังกล่าวไม่ให้ทำสัญญา มอบเงินทุน หรือปล่อยเงินกู้ยืมให้กับบุคคลที่สามที่ซื้ออุปกรณ์หรือบริการของหัวเว่ยด้วย แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบหรือความเชื่อมโยงใดๆ กับรัฐบาลสหรัฐฯ เลยก็ตาม

การเพิ่มชื่อหัวเว่ยเข้าไปในรายชื่อ Entity List ของกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า การกระทำเช่นนี้จะกลายเป็นแบบอย่างที่อันตราย วันนี้เขาพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคม และหัวเว่ย ทว่าพรุ่งนี้ อาจจะเป็นอุตสาหกรรมของคุณ บริษัทของคุณ หรือผู้บริโภคของคุณก็เป็นได้

อย่างไรก็ดีระบบตุลาการเป็นปราการด่านสุดท้ายของการผดุงความยุติธรรม หัวเว่ยมีความมั่นใจในความเป็นอิสระ และความเที่ยงธรรมของระบบศาลสหรัฐฯ เราหวังว่าศาลจะสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในกฎหมายการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ ได้

Huawei

ด้าน มร. เกลน เนเกอร์ หัวหน้าที่ปรึกษาของหัวเว่ยในคดีนี้ กล่าวว่า มาตรา 889 ของกฎหมายการป้องกันประเทศ ปี 2562 ของสหรัฐฯ ละเมิดกฎหมายจำกัดตัดสิทธิบุคคล กระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย และเงื่อนไขกำหนดการแบ่งแยกอำนาจของรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา

ดังนั้น คดีนี้จึงเป็นเรื่องของกฎหมาย โดยแท้ เนื่องจากประเด็นนี้ไม่มีข้อเท็จจริงเข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้เราต้องยื่นคำร้อง เพื่อขอสรุปคำตัดสินเพื่อเร่งกระบวนการในชั้นศาล ซึ่ง หัวเว่ย เชื่อว่า การที่สหรัฐฯ พยายามทำลายหัวเว่ยจะไม่ช่วยให้เครือข่ายมีความปลอดภัยมากขึ้น

หัวเว่ยหวังว่าสหรัฐฯ จะเลือกแนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง และใช้มาตรการที่ซื่อตรง และมีประสิทธิผลเพื่อพัฒนาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ดีขึ้นเพื่อทุกคน หากว่าเป้าหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเรื่องความปลอดภัยจริง ๆ

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่