Digital Workplace

เดลล์ เผยโฉม โซลูชัน คอมเมอร์เชียล ไคลเอนด์ ใหม่ ช่วยคนทำงานในไทย ก้าวสู่ความเป็น Digital Workplace รับกระแส Digital Transformation ที่ต้องการประสิทธิภาพที่รวดเร็ว ปลอดภัย และตอบโจทย์ทุกรูปแบบการทำงาน

Dell Commercial Client Solution for Digital Workplace

Digital Workplace

อโณทัย เวทยากร รองประธาน เดลล์ อีเอ็มซี อินโดจีน ได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า ทรัพยากรบุคคลนับเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ส่งผลให้หลายองค์กรให้ความสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรภายในองค์กรให้สูงขึ้น รวมถึงแสวงหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงาน

หนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้หลายๆ องค์กรประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว นั่นคือ การบริหารทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยี และรูปแบบสถานที่ทำงาน (Workplace) ให้มีความเหมาะสมกับลักษณะของงานในยุคปัจจุบัน และก้าวสู่องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้ ดิจิทัล (Digital Workplace) ได้อย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าการที่จะทำให้องค์กรก้าวเข้าสู่การขับเคลื่อนการทำงานด้วยดิจิทัล ได้ สิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คือ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับลักษณะงาน ที่ในแต่อุตสาหกรรม นั้นมีความต้องการแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

และจำเป็นมากขึ้นเมื่อธุรกิจต้องก้าวสู่การขับเคลื่อน ด้วยข้อมูล อีกทั้งต้องสามารถรองรับรูปแบบการทำงานระหว่างมนุษย์ และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Human and Machine) ซึ่งต้องการทั้งความ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ใดก็ตาม

โดยจากรายงานยุคหน้าของความร่วมมือระหว่างมนุษย์และจักรกล (Next Era of Human-Machine Partnership ที่เดลล์ เทคโนโลยีส์ และสถาบันเพื่ออนาคต (Institute for the Future: IFTF) ที่เราได้ทำการสำรวจไว้

เราพบว่า มนุษย์ และเครื่องกล ทำงานร่วมกันมานานแล้ว ไม่ว่าจะปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) เทคโนโลยีการผสานสภาพแวดล้อมจริงกับวัตถุเสมือน (Augmented Reality หรือ AR) เทคโนโลยีการจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง (Virtual Reality หรือ VR)

ไปจนถึงความก้าวหน้าของอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และคลาวด์ คอมพิวติ้ง ก็เพียงที่เป็นเร่ืองที่ถูกกล่าวถึงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเท่านั้น และในอนาค มนุษย์ และเครื่องกลจะทำงานใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น เพิ่มมากขึ้น เพื่อก้าวสู่การทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

โดย เปิดตัวโซลูชัน คอมเมอร์เชียล ไคลเอนด์ แล็ปท็อปเซ็ตใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานของผู้คนในปัจจุบันได้หลายหลายรูปแบบ และช่วยให้คนเหล่านี้ปรับตัวและเปลี่ยนสู่ยุคอนาคตได้ ทั้งนวัตกรรมและการปรับปรุงภายในผลิตภัณฑ์เหล่านี้

ซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงเรื่องของประสิทธิภาพ ฟังก์ชั่นการทำงาน และประสบการณ์ของผู้ใช้งานโดยรวม การรีเฟรชสายผลิตภัณฑ์ Latitude ได้พัฒนาโดยคำนึงถึงคนทำงานผ่านโมบาย พร้อมด้วยมุมมองเชิงลึกจากการศึกษางานวิจัยหลากหลายที่เดลล์ได้สนับสนุนการจัดทำขึ้น

โดยผลการวิจัยระดับโลก ชิ้นล่าสุดได้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีเกิดใหม่ โดยพบว่า 48 เปอร์เซ็นต์ของผู้นำธุรกิจทั่วโลกที่เข้ารับสำรวจ รวมถึงผู้นำในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เชื่อว่าตนจะมีความพึงพอใจกับงานในอนาคตยิ่งขึ้น หากปลดเปลื้องภาระงานให้เครื่องจักรกลทำได้

ดังนั้น องค์กรธุรกิจรวมถึงคนทำงานในปัจจุบันกำลังให้ความสำคัญมากขึ้นกับอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสนับสนุนการทำงานได้ทั้งปัจจุบัน และในอนาคต ที่เรากำลังเข้าสู่รูปแบบของการทำงานแห่งอนาคตที่ซึ่งวิถีการทำงานของผู้คน และการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

ตราบเท่าที่เทคโนโลยียังคงเข้ามามีบทบาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการฝากความคาดหวังครั้งสำคัญถึงผลกระทบในเชิงบวกที่จะนำพามาโดยเทคโนโลยีเกิดใหม่เหล่านี้ การจะบรรลุเรื่องนี้ ลูกค้าของเราต้องมีอุปกรณ์ที่เป็นตัวช่วยในการสร้างผลลัพธ์ของงานในปัจจุบัน

พร้อมช่วยรองรับต่อเนื่องไปถึงอนาคต ด้วยประสิทธิภาพ โมบิลิตี้ และระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการอ้างถึงว่าเป็นฟีเจอร์หลักที่คนทำงานต้องการ สายผลิตภัณฑ์ Latitude ที่รีเฟรช นี้ เข้ามาเพื่อตอบโจทย์ช่องว่างในตลาดสำหรับอุปกรณ์โมบายเพื่อการทำงานที่ทรงพลังยิ่งขึ้น บางขึ้น และเบาขึ้น

โดย Latitude รุ่นใหม่ ของเดลล์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนทำงานผ่านโมบาย เป็นคอมเมอร์เชียล โน้ตบุ๊ค ที่ให้ความสามารถด้านการจัดการและให้ความปลอดภัย พร้อมกันนี้ ได้มีการรีเฟรชรุ่น 2-in-1 อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 8th Gen Intel Core vPro 15W processors ทั้ง dual-core

และ quad-core ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างเหนือชั้น ในการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผล แสดงให้เห็นถึงการยกระดับประสิทธิภาพอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นก่อนหน้านี้ โดยในส่วนของ cores และ threads

ก็สังเกตได้ถึงความแตกต่างเมื่ออยู่บนเครือข่ายของบริษัทในเวลาที่ระบบไอทีทำการรัน encryption สแกนมัลแวร์ และแอพฯ พื้นฐานอื่นๆ เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับพนักงานและรักษาความปลอดภัย สายผลิตภัณฑ์ Latitude ยังได้รับการอัพเดทนวัตกรรมน่าตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่หลายอย่างด้วยกัน

ที่เดลล์ นวัตกรรมไม่เคยหลับใหล  เราหลงใหลในเรื่องของการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ขยายขอบเขตออกไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 Latitude 13 7390 และ 7390 2-in-1

Digital Workplace

ผลิตภัณฑ์ Dell Latitude 7390 นั้นมีการรีเฟรชในเรื่องการออกแบบที่ให้ความบางและเบา ให้ประสิทธิภาพที่เยี่ยมยอด และทางเลือกการประมวลผลอันทรงพลัง ระบบรักษาความปลอดภัยอย่างสุดยอดของ Latitude รวมถึงความเร็วที่เหนือชั้น

และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ช่วยเพิ่มอำนาจในการทำงานให้กับผู้คนอีกทั้งยังช่วยรักษาผลิตผลของงานด้านออฟฟิศ ทั้งนี้ Latitude 7390 สร้างขึ้นด้วยวัสดุระดับไฮ-เอนด์ เช่น แมกนีเซียม อัลลอยด์ พร้อมผสมผสานการออกแบบที่พรีเมียมที่ให้ความทนทานมากที่สุด Latitude 13 7390 ใหม่ มาพร้อมทางเลือกโปรเซสเซอร์ อินเทล

Digital Workplace

ตั้งแต่ Intel 8th Gen และ PCIe SSD เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ เดลล์ ยังได้เสนอทางเลือกฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น Dell ControlVault 2.0 รวมถึงเครื่องอ่านสมาร์ทการ์ดทั้งแบบ contact และ contactless และเครื่องอ่านลายนิ้วมือแบบสัมผัส หรือกล้องอินฟาเรด เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจถึงความปลอดภัยของข้อมูล

Latitude 14 7490

Digital Workplace

Latitude 7490 มาพร้อมเทคโนโลยี Active Steering Antenna เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับเดลล์เพื่อให้ประสิทธิภาพของระยะทางระบบไวไฟที่ดีกว่าเดิม พร้อมความเร็วและความน่าเชื่อถือในการต่อเชื่อมที่ประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อมจอแบบ Full HD แบบ Super Low Power ที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน

ลงถึงกว่า 50% ซึ่งจะมีผลต่อการยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ออกไปได้อีกหลายชั่วโมง และยังมาพร้อม Intel 8th Gen เครื่อง Latitude 7490 คือแล็ปท็อปขนาด 14 นิ้ว สำหรับการใช้งานในเชิงธุรกิจที่มากับวัสดุระดับพรีเมียมเพื่อให้รูปลักษณ์ที่สวยหรูและแข็งแรง พร้อมประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูง

Latitude 12 5290 และ 5290 2-in-1

Digital Workplace

Latitude 5290 เป็นเครื่องมือขนาด 12.5 นิ้ว ที่ให้โมบิลิตี้สูงสุด สร้างขุมพลังในเรื่องของผลงาน โดยให้ทางเลือกด้านการรักษาความปลอดภัยหลายแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย ให้ฟีเจอร์ต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์เพื่อการพิสูจน์ตัวตนในหลายองค์ประกอบ (multi-factor authentication) เช่นเครื่องอ่านลายนิ้วมือระบบสัมผัส เครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดตามมาตรฐาน FIPS 201 และเครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดแบบแตะบัตร (contact)

Digital Workplace

และเครื่องอ่านสมาร์ทการ์ดที่ใช้เทคโนโลยี NFC ที่ไม่ต้องแตะบัตร (contactless) เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่ง Latitude 12 5290 หาจุดวางในพื้นที่ทำงานที่แออัดได้ง่าย มาพร้อมทางเลือกที่หลากหลายในการใช้งานระบบไร้สาย รวมถึง โมบาย บรอดแบนด์

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมจอแสดงผลแบบ HD และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อึดทั้งวัน จึงช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ในทุกหนทุกแห่ง

Latitude 14 5490

Digital Workplace

Latitude 5490 เป็นเครื่องมือขนาด 14 นิ้ว ที่ให้ผลลัพธ์ของงานที่ดีเยี่ยม ออกแบบมาเพื่อการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น ให้ความสามารถด้านการจัดการ และความน่าเชื่อถือที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก ทั้งนี้ แล็ปท็อปมาพร้อม Windows Hello เพื่อรองรับระบบจดจำใบหน้า เพื่อการเข้าถึงได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย

พร้อมกับทางเลือกด้านการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ รวมถึงโซลูชันระบบรักษาความปลอดภัยในฮาร์ดแวร์ซึ่งเป็นความโดดเด่นของเดลล์โดยเฉพาะ

ซึ่งให้ทางเลือกในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น สำหรับการจัดเก็บและดำเนินการด้านพาสเวิร์ด รวมถึง biometric templates และ security codes

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าคอมเมอร์เชียล ของเดลล์ มาพร้อม ProSupport Plus ซึ่งเป็นโซลูชันที่ให้การสนับสนุนสำหรับลูกค้าระดับองค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซในอุตสาหกรรมได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการโทรหาฝ่ายเทคนิคที่เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา 24×7 และการให้บริการ

ณ ไซต์งานหลังจากวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาได้จากระยะไกล รวมถึงให้การสนับสนุนทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และการสนับสนุนในแบบอัตโนมัติเชิงรุก ด้วย ProSupport Plus พร้อมกับ SupportAssist ช่วยลดเวลาในการแก้ไขปัญหาได้มากถึง 91% ด้วยการสนับสนุนด้านเทคนิค และยังลดขั้นตอนในการสนับสนุนให้น้อยลงถึง 71%

สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจาก ProSupport

  • การติดต่อวิศวกร ProSupport ได้ตลอดเวลาแบบ 24×7
  • วิเคราะห์ และคาดการณ์ถึงปัญหาได้ล่วงหน้า ด้วย SupportAssist เทคโนโลยีในการตรวจสอบของเดลล์
  • การบริการจัดการเคสแบบ self-service และการจัดส่งอะไหล่ ผ่านพอร์ทัล TechDirect บน API และAppของเดลล์
  • บริการครอบคลุมถึงการทำเครื่องตกหล่น และการกระชากของไฟฟ้า
  • การดูแลฮาร์ดดิสก์หลังการเปลี่ยน เพื่อให้มั่นใจว่ามีการควบคุมข้อมูล
  • มีผู้จัดการฝ่ายเทคนิคดูแลแอคเค้าท์โดยเฉพาะ
  • ดูแลเรื่องพร้อมออกรายงานเป็นรายเดือนให้แก่ลูกค้าในระบบ

Digital Workplace

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง 
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่