Eleader January 2015
สองสายการบินแถวหน้าของประเทศไทย อย่าง นกแอร์ และ ไทยสมายล์ นำบริการคลาวด์ Office 365 มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการประสานงานภายในองค์กร รับกระแส BYOD
โปรแกรมออฟฟิศ สามารถทำงานจากอุปกรณ์ใดก็ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสูงระดับโลก เช่น ISO 27001 และ EU ทำให้องค์กรธุรกิจรายใหญ่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ต่างให้ความไว้วางใจเลือกใช้บริการคลาวด์ Office 365 จากไมโครซอฟท์
ปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์ออฟฟิศ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Office 365 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของไมโครซอฟท์ที่มีอัตราการเติบโตสูง และประเทศไทยเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยในปี 2556 ผลิตภัณฑ์ Office 365 ในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,000 เปอร์เซ็นต์ และคาดหวังว่าในปีนี้จะเติบโตให้ได้อย่างน้อย 400 เปอร์เซ็นต์ สอดคล้องกับผลการสำรวจของไอดีซีที่ระบุว่า ตลาด Software as a Service (SaaS) ของประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตสูง จากปี 2556 โดยมีมูลค่าถึง 87 ล้านดอลลาร์ และในปี 2557 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 121 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์
บริการ Office 365 มีทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าทั้งธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดย่อม รวมถึงผู้บริโภคสำหรับใช้งานทั่วไป เหตุผลที่ทำให้ Office 365 ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเนื่องมาจาก มีการผ่านมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูลในระดับโลก เช่น ISO 27001 และ EU มีการใช้งานที่สะดวก มีความยืดหยุ่นสูง และคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยลูกค้าสามารถทยอยจ่ายเป็นรายเดือนได้
นอกจากนี้ยังตอบโจทย์เทรนด์หรือแนวโน้มในการนำอุปกรณ์ส่วนตัวไปใช้ในที่ทำงานหรือบีวายโอดี โดย Office 365 เป็นบริการคลาวด์เพียงรายเดียวในปัจจุบันที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งใช้งานได้ทั้งบนพีซี โน้ตบุ๊ก สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต เหมาะกับธุรกิจที่บุคลากรต้องทำงานนอกสถานที่หรือเดินทางอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น ธุรกิจการท่องเที่ยวหรือสายการบิน ซึ่งมีการขยายตัวของอุตสาหกรรมอย่างมาก โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่เออีซี นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานนับเป็นอีกกลุ่มที่ให้การตอบรับนำระบบบริการคลาวด์มาใช้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับหากเกิดเหตุภัยพิบัติที่อาจกระทบต่อการทำงาน เพราะด้วย Office 365 พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลบริษัทและสามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด” ปัญจพร กล่าวเสริม
สิรินันท์ จิรดิลก ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในองค์กรที่ใช้บริการ Office 365 เปิดเผยว่า “ได้นำบริการคลาวด์ Office 365 มาใช้กับระบบอีเมล์และแชร์ไฟล์ เนื่องจากความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา หากอนุญาตให้ส่งจากฟรีอีเมล์หรือคลาวด์สตอเรจจากข้างนอกอาจจะไม่ปลอดภัยเพียงพอ นอกจากนี้ Office 365 ยังเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการลงทุน เพราะการลงทุนกับสตอเรจเป็นต้นทุนที่สูงมาก โดยระยะเวลา 1 ปี
หลังจากนำ Office 365 มาใช้ พบว่าช่วยลดงบการลงทุนได้เป็นตัวเลข 7-8 หลัก รวมถึงข้อดีในเรื่องของความยืดหยุ่นในการใช้งบการลงทุนแต่ละครั้งไม่มากทำให้ได้รับการอนุมัติได้ง่าย รวมถึงปัจจุบัน พนักงานส่วนใหญ่นิยมนำอุปกรณ์ไอทีส่วนตัวมาใช้ในที่ทำงานซึ่ง Office 365 ตอบโจทย์ในเทรนด์บีวายโอดีได้เป็นอย่างดี ดังนั้นในฐานะที่ต้องดูแลด้านไอทีของบริษัทต้องปรับให้เกิดความสมดุลระหว่างนโยบาย และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งนกแอร์มีแนวทางการลงทุนไอทีของบริษัทมุ่งสู่โมบายและคลาวด์มากขึ้น
“ด้วยธุรกิจสายการบินที่มีการแข่งขันสูง ความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายจึงเป็นสิ่งที่เราพิจารณาเป็นอันดับแรก และเมื่อต้องใช้คลาวด์ เรามีความมั่นใจในไมโครซอฟท์ ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลก และความคุ้นเคยจากการใช้งานซอฟต์แวร์ออฟฟิศเป็นทุนเดิม ทำให้ ไทยสมายล์ ตัดสินใจเลือก Office 365 มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางการตลาด ด้วยความสามารถในการช่วยบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พัชราภรณ์ ทรัพยสาร หัวหน้าฝ่ายไอที บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด กล่าวให้ความเห็นเพิ่ม
ทั้งนี้ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวบริการ Office 365 บริการชุดออฟฟิศบนระบบคลาวด์ เป็นครั้งแรกในปี 2554 ปัจจุบัน Office 365 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเติบโตเร็วที่สุดของไมโครซอฟท์ โดยจากผลประกอบการทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 รายได้ของบริษัทจากกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้เพิ่มสูงขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัว หลังจากที่ฐานผู้ใช้งานในภาคธุรกิจได้เพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งเท่าตัวเช่นกัน ในขณะที่ยอดผู้ใช้ Office 365 Home พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.4 ล้านราย ทั้งหมดนี้ทำให้ไมโครซอฟท์มีฐานผู้ใช้งาน Office 365 ทั่วโลกรวมทั้งสิ้นถึง 110 ล้านคน
