Aruba

อรูบ้า ขนทัพ Aruba Experience Edge Platform เข้าตลาดไทย หวังช่วยธุรกิจไทยสร้างระบบเครือข่ายอัจฉริยะ และสร้างการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้น…

อรูบ้า เดินหน้าสานต่อการนำเสนอ นวัตกรรมในรูปแบบของแฟลตฟอร์ม หลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Access Points (APs) สำหรับเครือข่ายไร้สายที่พร้อมรองรับอุปกรณ์ IoT ซึ่งใช้เทคโนโลยี 802.11ax (Wi-Fi 6) และอุปกรณ์ Switches ที่ใช้ทำงานร่วมกัน 

และสามารถนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยเสริมพลังให้ระบบทำงานโดยอัตโนมัติ และสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการ (Service Assurance) เพื่อส่งมอบระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ง่ายในการดูแลรักษา และให้ความเชื่อมั่นสูงตอบสนองความต้องการขององค์กรในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้ในยุคดิจิทัล

Aruba Experience Edge Platform

Aruba

Mark Verbloot ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมระบบ (System Engineering) แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของอรูบ้าหนึ่งในเครือบริษัทฮิวเลตต์แพคการ์ดเอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ขอใช้โทรศัพท์มือถือในอัตราประมาณ 133% แต่มีอัตราของคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตต่ำเพียง 53%

ซึ่งหมายความว่าผู้คนจำนวนมากที่นี่กำลังเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออื่น ๆ โดยแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ยังคงมุ่งเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบเครือข่าย และการสื่อสารโทรคมนาคมของตนต่อไป

และยิ่งจะถูกผลักดันจากการนำอุปกรณ์ IoT มาใช้งานมากขึ้น องค์กรต่าง ๆ กำลังประสบกับเครือข่ายที่การจราจรของข้อมูลหนาแน่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการใช้ มาตรฐานอย่าง Wi-Fi 802.11ax จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการส่งผ่านข้อมูลรวมทั้งประสบการณ์ของผู้ใช้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแนวดิ่ง

เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การค้าปลีก การศึกษาและการดูแลสุขภาพ การอัปเกรดนี้ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและขยายการอยู่ร่วมกันบนระบบ Wi-Fi ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของแอพพลิเคชันหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียง วิดีโอ ข้อมูลหรือ IoT ก็ตาม 

วันนีี้ แนวโน้มโลกธุรกิจ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุปกรณ์พกพา เปิดตัวอุปกรณ์ประเภทใหม่ ๆ ล่าสุดเห็น 4 level phone  ออกมาในตลาด อุปกรณ์ใหม่ ๆ ประเภทนี้จะเริ่มต้องรองรับในเรื่องของปริมาณข้อมูลจำนวนมากขึ้น และมีฟังก์ชั่นการใช้งานมากขึ้น

Aruba

ซึ่งคาดการณ์กันว่าอุปกรณ์ทางด้าน IoT ภายในปี 2020 จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 20 พันล้านชิ้น เพื่อเชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายทั่วโลก และทำให้ธุรกิจสรน้างประสบการณ์การใช้งานเปลี่ยนไป

ในขณะเดียวกัน cloud spending ขยายตัวอย่างต่อเนื่องผลักดันให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในการให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกับลูกค้า การพัฒนาแอพ ซอฟต์แวร์ทำได้อย่างรวดเร็วด้วยการใช้โซลูชั่นคลาวด์

โดยจากผลการวิจัยของ Gartner เองก็ชี้ให้เห็นว่าองค์กรต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในยุคอนาคต ที่ต้องให้พนักงานได้มีประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีเช่นเดียวกับผู้บริโภค เทคโนโลยีนี้ต้องช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าจะเป็นอุปสรรคในการทำงาน

วันนี้ผู้ประกอบธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของการให้บริการ ให้มีประสบการณ์ การใช้งานที่ก้าวล้ำหน้ามากขึ้น มีการบริการขยายมากขึ้น ระบบเครือข่ายกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเข้ามาช่วยทำให้ประสบการณ์ให้เกิดขึ้นในองค์กร และลดเรื่องของ operation จากเทคโนโลยีเดิม ๆ ซึ่งเป็น silo based ที่ทำไห้เกิดรูแบบของต่างคนต่างจัดการลง

ร่วมไปถึงจากความต้องการที่ผู้บริโภค ต้องการประสบการณ์ที่ดีขึ้น การใช้เทคโนโลยีที่สามารถทำให้ระบบเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ในการใช้งานขององค์กร ขณะเดียวในเรื่องของ Operation ที่เป็นเทคโนโลยีเดิม ๆ เป็น Silo Based ที่ต่างคนต่างจัดการในแง่ของตัวเอง

Aruba

จากแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปนี่เองการใช้ อรูบ้า เอ็กซ์พีเรียนซ์ เอดจ์ แฟลตฟอร์ม ซึ่งเป็นโซลูชั่นเครือข่ายที่ชายขอบ (Edge) ที่สามารถสร้างจุดที่เชื่อมโยงผู้คน และอุปกรณ์ IoT เข้ากับโลกดิจิทัล เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ใช้เทคโนโลยีต้องสามารถให้บริการที่ดีขึ้น

และสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น และความต้องการของผู้ใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่เพียงแต่ต้องเป็นเครือข่ายที่ล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังต้องมีความสามารถด้านเทคโนโลยีในเชิงรุกที่สามารถคาดการณ์ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

และแก้ไขปัญหานั้นได้ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ และสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมในการใช้งานระบบเครือข่าย รองรับการใช้งานได้ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น Smart Workplace, Smart School, Smart Retails ,Smart Hotel และ Smart Hospital ต่าง ๆ

วันนี้การที่สามารถรวมความสามารถที่ทำได้มากกว่าการเชื่อมต่อ และสามารถนำไปปรับใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ในการเปิดประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้เกิดขึ้น การใช้ง่าน อรูบ้า เอ็กซ์พีเรียนซ์ เอดจ์ แฟลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Switching ,APs สำหรับ Wireless

และซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ อรูบ้า มีจะช่วยประสานภาพรวมการทำงานให้เกิดขึ้น ให้ทุกอย่างสามารถกำหนดโพลิซี่ได้อย่างถูกต้องโดยอัตโนมัติ และสามารถทำการควบคุมได้โดยอัตโนมัติ มีการเชื่อมต่อที่สามารถระบุการใช้งานได้ถูกต้อง ทุกอย่างจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ

สมัยก่อนเวลาที่เราต้องการจะเอาอะไรเข้ามาในระบบเครือข่าย เราอาจจะต้องจัดการหลายอย่าง ทำการปรับจูนค่าต่าง ๆ  (Configuration) มากมาย แต่ด้วยโซลูชั่น อรูบ้า เอ็กซ์พีเรียนซ์ เอดจ์ แฟลตฟอร์ม นี้ทุกอย่างจะกลายเป็นไปโดยอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งไม่ว่าจะ IoT ตัวไหนเสียบเข้ามา ไม่ว่าจะผู้ใช้คนไหนเดินเข้ามา จะมีการต่อเชื่อมที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติ และได้โพลิซี่ที่ถูกต้องตรงกับบทบาทของผู้ใช้คนนั้น ทำให้เข้าถึงระบบเครือข่ายได้ง่ายขึ้น แล้วจากนั้นต่อไปจะเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่จะนำแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ มาทำงานเพิ่มเติมบนระบบเครือข่ายได้

นอกจากนี้ ด้วยสถาปัตยกรรมและตัวซอฟต์แวร์ เน้นในเรื่องของการจัดการและการควบคุมดูแลทำได้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งในเรื่องความปลอดภัยด้วย (Security) เรายังมีโซลูชั่นที่เป็น Location-based ที่จะสามารถระบุตำแหน่งของผู้ใช้ สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ ตามแนวคิดของ Location-based ทำให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ที่ Enhanced มากขึ้น

ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ

Aruba

แน่นอนว่าในเรื่องความปลอดภัยยังสำคัญ ยิ่งต่อเชื่อมมากยิ่งมีปัญหาความปลอดภัยสูง การเชื่อมต่อของอุปกรณ์มหาศาลเหล่านี้จะกลายเป็นจุดอ่อนถ้าเราไม่มีโซลูชั่นป้องกันความปลอดภัยที่ดีพอ ในแง่ของความปลอดภัย อรูบ้าจึงได้พัฒนาโซลูชั่นที่ชื่อว่า 360 security platform เป็นการประสานรวมกันระหว่างซอฟต์แวร์ที่ชื่อ ClearPass

กับ IntroSpect ในการที่จะมาตรวจสอบค้นหาภัยคุกคามโดยอัตโนมัติใช้เทคนิคของ machine learning การเชื่อมต่อมหาศาลที่เกิดขึ้นนี้ เราจะไม่สามารถใช้คนมาค่อยดูแลได้ง่าย ๆ อีกแล้ว ต้องใช้ซอฟต์แวร์ machine learning มาค่อยดูแลพฤติกรรมการเชื่อมต่อแทน

ทำให้สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคาม แล้วก็ควบคุมหรือหยุดพฤติกรรมที่ผิดปกติพวกนั้นได้ ด้วย 360 Security Platform ของเราแบบเรียลไทม์ และอรูบ้ายังสร้างการการเชื่อมต่อในรูปแบบของการบูรณาการ (intregated) ร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ อีกด้วย

ซึ่งในแง่ของ security มีแบรนด์ดัง ๆ หลายตัวในท้องตลาด แต่จะมีลักษณะเป็นเหมือนการล้อมรั้ว เป็นการกำหนดความปลอดภัย ด้วยการกำหนดค่าเพอริมิเตอร์ (perimeter) ใส่ Firewall ใส่ IPS ล้อมรั้วไปหมด แต่ 360 Security Platform ของ อรูบ้า นอกจากจะเน้นในการ integrated ร่วมกันแล้ว ก็

ยังเน้นสิ่งสำคัญอันหนึ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นมาก่อนคือการป้องกันภัยคุกคามจากภายใน (Insider Threat) จากการต่อเชื่อมทั้งหลาย ถ้าอุปกรณ์ใดติด Malware (Malicious Software) ไวรัสมา ตัว 360 Degree Security platform ของ อรูบ้า

จะเป็นตัวที่จะมาตรวจจับ แล้วกระทำการโต้ตอบกับ insider threat ในทันที ขณะเดียวกันมีการเชื่อมต่อแบบบูรณาการกับเพอริมิเตอร์ด้าน security ของอุปกรณ์ appliance อื่น ๆ ในการที่จะทำให้การควบคุมสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น 

รองรับการเชื่อมต่อ AI

Aruba

โซลูชั่น อรูบ้า เอ็กซ์พีเรียนซ์ เอดจ์ แฟลตฟอร์ม นอกจากสามารถ เชื่อมต่อ ควบคุมได้อย่างง่ายดาย แล้ว ยังสามารถใช้ AI ที่ฝังอยู่ใน (built-in) ในระบบเข้ามาช่วย ทำให้สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ ทำให้สามารถปรับประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น เพราะ อรูบ้า มี AI อยู่บนตัว Wi-Fi ที่จะทำประสิทธิภาพของ Wi-Fi

ของ อรูบ้า อยู่ในสู่จุดที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีที่สุด และการที่ อรูบ้ามี AI อยู่บนตัว Security ก็ทำให้สามารถตรวจจับภัยคุกคามในองค์กร หรืออุปกรณ์ต่อเชื่อมต่าง ๆ ในองค์กร ได้อีกด้วย ถ้าใครมีพฤติกรรมผิดปกติ AI ตัวนี้จะทำการแจ้งเตือนทันที 

นอกจากนี้ในเรื่องของการปรับจูน configuration ที่มี AI ทำให้สามารถแนะนำ Configuration ที่ดีที่สุดในการใช้งาน ซึ่ง AI ของอรูบ้า พัฒนาขึ้นโดยใช้ฐานความรู้ของอรูบ้ากว่า 17 ปี เป็นฐาน ในการสร้างให้ AI เรียนรู้ และด้วย AI ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิจัดการ power ได้้ดีมากกว่าอดีต

สมัยก่อน Access Point ที่ใช้ในการต่อเชื่อมไวไฟต้องมีการจ่ายไฟให้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันแม้ AP ของ อรูบ้า ที่เป็น 802.11ax จะทำให้กินกำลังไฟที่สูงขึ้น แต่ด้วย AI smart power ที่มีจะช่วยเข้ามาช่วยบริหารจัดการว่าควรเปิดปิด AP บางตัวให้อยู่ใน sleep mode ในเวลาที่ไม่มีการใช้งานได้

ซึ่งหากมีการใช้งานเมื่อไรก็เปิดเพิ่มขึ้นมาได้เอง การครอบคลุมพื้นที่การให้บริการไม่ได้ลดลงเลย เพียงแต่ AP บางตัวจะต้องถูกปรับให้ใช้งานมากขึ้นในบางช่วง 

โซลูชั่นแบบครบวงจร (End-to-End)

Aruba

โซลูชั่นของอรูบ้าเป็นแบบครบวงจร (End-to-End) ในการสร้างระบบเครือข่ายให้ลูกค้า อรูบ้ายังทำงานร่วมกับพันธมิตรใน ecosystem อื่น ๆ ที่จะเข้ามาช่วยให้ Experience Edge สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าพันธมิตรในเรื่องของ Smart Office ในเรื่องของโซลูชั่นห้องประชุม Smart Meeting Room

ซึ่งหลาย ๆ บริษัทมีการ integrated ได้แม้กระทั่งกับเฟอร์นิเจอร์ อย่าง Herman Miller ที่สามารถปรับเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติตามลักษณะของผู้ใช้แต่ละคน เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนอย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น และดีขึ้น

นอกจากนี้ อรูบ้า ยังได้ integrated กับพันธมิตรทางด้าน security ชั้นนำทุก ๆ แบรนด์ เน้นในการที่เราเป็น open APIs ในการเชื่อมต่อเพื่อให้เกิดโวลูชั่นที่ครบวงจร (End-to-end solution) ในการควบคุมดูแลได้ในอุปกรณ์ของทุก ๆ แบรนด์ไม่ใช่เฉพาะแค่อุปกรณ์ของ อรูบ้า เท่านั้น

ตัวอย่างที่มีการใช้งานด้าน customer reference ของอรูบ้า อาทิ สนามบินรีโอเดจาเนโร อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เป็นสนามบินที่ใช้ในการรองรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 36 (Rio 2016) ที่ผ่านมา ก็ได้ใช้ solution-based ของ อรูบ้า ทำให้ผู้เข้ามาในพื้นที่จะได้รับคำแนะนำในการแนะนำทาง และนำไปชอบปิ้งได้ถูกร้านในสนามบิน 

ในอีกตัวอย่าง อรูบ้า ทำลายสถิติการให้การบริการ Wi-Fi ในงาน Super Bowl ครั้งที่ 53 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ได้สูงถึง 24 Terabytes นับว่าเป็นการให้บริการข้อมูลบนเครือข่าย Wi-Fi ที่สูงที่สุดในสหรัฐ ฯ หรืออาจจะในโลกขณะนี้ อีกด้วย

ล่าสุด สถาบันวิจัยอย่าง Gartner ยอมรับให้อรูบ้าเป็นผู้นำบนเมจิกควอแดรนท์ติดต่อกันมา 13 ปีซ้อน 2 ปีหลังสุดเรานำในเรื่องวิสัยทัศน์ เราเหนือกว่าคู่แข่งใน critical capability report ใน 5 เกณฑ์จาก 6 เกณฑ์ที่มีทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า เราได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยีชั้นนำ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

เรายืนยันลูกค้ามั่นใจว่าได้รับบริการที่ดีที่สุดจากโซลูชั่นของเรา เรายังคงยึดมั่นในหลักการ customer first, customer last ทีมงานทุกคนเขาถึงได้หมด แม้กระทั่งในระดับของ CEO ในการส่งมอบโซลูชั่น และบริการที่ อรูบ้า สัญญามอบให้แก่ลูกค้าของ อรูบ้า

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง 
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่