อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือ IoT (Internet of Things) เป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภายใต้เทคโนโลยีในการเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กับอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน 1-2 ปีข้างหน้า

มีการคาดการณ์จาก Gartner ว่าภายในปี 2020 จะมีอุปกรณ์ไอโอทีมากขึ้น 26,000 ล้านชิ้นทั่วโลก ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกอย่าง CISCO มองว่าในปี 2020 น่าจะมีอุปกรณ์ไอโอทีมากขึ้น 50,000 ล้านชิ้น

การเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์ไอโอทีนั้น เป็นผลจากการความสามารถในการเชื่อมต่อและสื่อสารกันเองระหว่างอุปกรณ์  (Machine-to-Machine: M2M) ทั้งในรูปแบบที่เกิดขึ้นกับ Supply Chain ในโรงงานอุตสาหกรรมและรูปแบบของการใช้งานเชิงพาณิชย์ หรือ Commercial IoT

ปัจจุบันไอโอทีถูกนำมาใช้ในหลายธุรกิจ อย่างธุรกิจค้าปลีก (Retail) นำไอโอทีมาใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค ผ่านการ Feed ข้อมูลตรงไปยังสมาร์ตโฟนของลูกค้าที่ลงทะเบียนไว้ รวมถึงการนำไอโอที มาใช้ในกระบวนการบริหารจัดการ Supply Chain ตั้งแต่กระบวนการผลิต จัดซื้อ การขนส่ง การจัดเก็บ และการจำหน่ายอีกด้วย

ในระดับ Home Use มีการนำไอโอทีมาใช้งานเพื่อสร้างเป็น Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ ที่สามารถสั่งงานการทำงานต่าง ๆ ในบ้าน เช่น เปิด-ปิด หลอดไฟ แอร์ ได้จากนอกบ้าน โดยคาดการณ์ว่าตลาด Smart home นี้จะมีมูลค่ามากกว่า 71,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2561

ทางการแพทย์ได้นำไอโอทีไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ติดตัวผู้ป่วย เพื่อเฝ้าระวังปัญหาทางด้านสุขภาพที่จำเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะส่งสัญญาณไปยังโรงพยาบาลและญาติเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที

แต่บทบาทสำคัญที่สุดในการใช้งานไอโอทีคือการใช้งานสำหรับเมืองอัจฉริยะ เช่น การจัดการระบบไฟฟ้าของเมือง หรือ Smart Grid และการติดตั้งไอโอทีในมิเตอร์เพื่อจัดทำเป็นมิเตอร์อัจฉริยะที่สามารถส่งข้อมูลปริมาณการใช้พลังงานไปยังสถานีจ่ายไฟได้

การเกษตรเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการนำเอาเทคโนโลยีไอโอทีมาใช้ในระบบฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) คือการประยุกต์ใช้เซ็นเซอร์และแอพพลิเคชันในการประมวลผล เพื่อให้ได้ข้อมูลของกระบวนการทำฟาร์มที่เหมาะสม โดยทำงานร่วมกับระบบ Cloud เพื่อสั่งงานอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งในฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็นระบบหัวฉีดน้ำที่สามารถทำงานตามเวลาที่กำหนดหรือระบบไฟเพื่อให้แสงสำหรับพืช

การใช้งานดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการนำไอโอทีมาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจเพื่อยกระดับธุรกิจสู่ดิจิทัล เพื่อให้สามารถวัดผลได้และคาดว่าไอโอทีจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2561