DellEMC ประกาศรายได้ธุรกิจ OEM และ IoT ในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น รวมประเทศจีนทั้งหมดพุ่งทะลุ พันล้านเหรียญ เตรียมสานโอกาส ต่อยอดความต้องการโซลูชัน IoT และโซลูชันระบบฝังตัว หวังสร้างศักยภาพให้ผู้ประกอบการผลิตแบบ OEMs ด้วยการสนับสนุนอย่างครบวงจร

DellEMC โชว์รายได้ธุรกิจ OEM และ IoT พุ่ง เตรียมสานต่อ

เดลล์ อีเอ็มซี ประกาศธุรกิจส่วนโซลูชัน OEM และ IoT ในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJ) และ เดลล์ โออีเอ็ม ในประเทศจีนทั้งหมด (Greater China) มีรายได้ทะลุพันล้านเหรียญสหรัฐ ในสี่ไตรมาสซึ่งสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2018

โดยมีองค์กรธุรกิจจำนวนมากตอบรับการปฏิรูปสู่ดิจิทัลรวมถึงความต้องการที่เพิ่มสูง ในส่วนโซลูชันไอทีที่ให้ศักยภาพด้าน Edge Computing และ IoT สำหรับภาคอุตสาหกรรม สิ่งยืนยันถึงความสำเร็จของ ธุรกิจส่วนโซลูชัน OEM และ IoT คือ ความเข้าใจถึงการทำธุรกิจในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น

ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงและเป็นที่รู้จักในแง่ของการเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตโซลูชันที่มีระบบฝังตัว (Embedded Solutions) ซึ่งสามารถมอบศักยภาพเรื่อง Edge Computing ให้กับตลาดใหม่ นับเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อ เดลล์ เทคโนโลยีส์ ในการเร่งสร้างศักยภาพด้าน IoT

DellEMC

และระบบฝังตัวในทั่วโลก ด้วยแผนกโซลูชัน IoT ใหม่ พร้อมการลงทุน 1,000 ล้านเหรียญ ในการวิจัย และพัฒนา ด้าน IoT ภายใน 3 ปีข้างหน้า

เกลน เบอร์โรวส์ รองประธาน และผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายโซลูชัน OEM & IoT ในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ของ เดลล์ อีเอ็มซี ได้ให้ความเห็นว่า จากที่ “อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์” ได้กลายเป็น “อินเทอร์เน็ต ออฟ เอเวอรีธิง” ทำให้เราคาดว่าจะได้เห็นความต้องการโซลูชันที่ช่วยให้ประมวลผลได้จาก Edge เพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งยังรองรับกับโซลูชันระบบโครงสร้างไอทีขนาดใหญ่มากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปัจจุบันหรือในอนาคตก็ตาม  ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ จะหันมาหาผู้ให้บริการโซลูชันระบบฝังตัวกันมากขึ้น ซึ่งเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ที่จะช่วยสร้างผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการในอนาคตได้

รวมถึงให้ความสามารถในการทำงานได้จริงสำหรับปัจจุบัน เราเป็นคู่ค้าในเชิงกลยุทธ์ ที่ช่วยนำทางผู้ประกอบการ OEM ไปสู่ภาพรวมของ IoT และระบบฝังตัวที่ซับซ้อนได้อย่างครบวงจร เพื่อช่วยให้บริษัทฯ เหล่านี้ สามารถนำเสนอความคิดออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว

การศึกษาดังกล่าวจัดทำโดย The Enterprise Strategy Group ซึ่งพบว่าบรรดาองค์กรที่ตอบรับการปฏิรูปไอที มีแนวโน้มที่จะรายงานถึงความก้าวหน้าในการสร้างนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และออกสู่ตลาดได้สูงถึง 6 เท่า อย่างไรก็ตาม การที่จะมาถึงจุดนี้ได้

องค์กรจำนวนมากต้องปรับโครงสร้างไอทีให้ทันสมัยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการปฏิรูป มีความสามารถในการแปลงนวัตกรรมและความคิดใหม่ๆ ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พร้อมวางตลาดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนององค์กรธุรกิจ

เรื่องนี้นับเป็นข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการโออีเอ็ม ทั้งนี้ ธุรกิจส่วนโซลูชัน OEM และ IoT ในเอเชียแปซิฟิก และ Dell OEM ประเทศจีน ประสบความสำเร็จด้วยการมุ่งเน้นคู่ค้าที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับผู้ประกอบการโออีเอ็ม

ในบทบาทของการเป็นที่ปรึกษาที่ให้รากฐานที่จำเป็นทั้งหมดได้อย่างครบวงจร เพื่อนำโซลูชัน IoT และระบบฝังตัวออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จ โดยสามารถให้การสนับสนุนลูกค้าครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์กว่า 20 แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น

และช่วยให้ลูกค้ารองรับองค์กรธุรกิจทั้งในประเทศ ในภูมิภาค กระทั่งองค์กรธุรกิจระดับโลกก็ตาม รวมถึงลูกค้าระดับโลกที่ทำธุรกิจอยู่ในเอเชีย

DellEMC

คู่ค้าที่เชื่อใจได้

เรามีทรัพยากรด้านวิศวกรรมโดยเฉพาะ ไว้คอยช่วยเหลือลูกค้าในการวางแนวคิดต้นแบบได้อย่างรวดเร็ว และมีผู้จัดการดูแลโครงการ ที่ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในการนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าด้านการผลิต

นอกจากนี้ยังช่วยแนะนำลูกค้าในเรื่องของกฏระเบียบทางการค้า โดยมีซัพพลายเชนระดับโลกที่วางใจได้ ไว้คอยรองรับเวลาที่ลูกค้ามีความต้องการสูงขึ้น โดยลูกค้ายังสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ได้ โดยเฉพาะทรัพยากรสำคัญเพื่อช่วยตอบโจทย์เรื่อง IoT ที่กำลังเป็นตลาดใหม่ และซับซ้อน

ด้วย ห้องปฏิบัติการ IoT ในประเทศสิงคโปร์ ของเดลล์ อีเอ็มซี และเครือข่าย คู่ค้าเทคโนโลยี IoT และการบริการ ในระดับโลก สามารถนำเสนอเครื่องมือเพื่อสร้างโซลูชัน IoT ให้กับผู้ประกอบการ OEMs เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้

การเข้าถึงบริษัทของ เดลล์ เทคโนโลยีส์ เช่น VMware, Pivotal, RSA และ Virtustream ยังถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างผลกระทบด้วยโซลูชัน IoT และระบบฝังตัว

โซลูชันที่พร้อมสำหรับตลาดเฉพาะทางหลักๆ

การที่ เดลล์ อีเอ็มซี โออีเอ็ม เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น และ เดลล์ โออีเอ็ม ประเทศจีน มุ่งเน้นที่ตลาดเฉพาะทางหลักๆ ยังเป็นส่วนที่ช่วยสร้างความสำเร็จให้กับบริษัทฯ ซึ่ง เดลล์ อีเอ็มซี โออีเอ็มได้มุ่งไปที่ภาคธุรกิจเป้าหมายซึ่งมีระบบงานที่สร้างบนโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิม

นั่นหมายถึงโอกาสสำหรับโซลูชันที่สามารถผสานรวมแหล่งข้อมูลที่อยู่กระจัดกระจายเข้าด้วยกันได้ ซึ่งหมายถึงการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกแหล่งใหม่ได้นั่นเอง โดยทั้งภาคการดูแลสุขภาพ การเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยด้วยวิดีโอ โทรคมนาคม

ระบบออโตเมชันสำหรับอุตสาหกรรม พลังงานและคมนาคม เหล่านี้ ล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่ เดลล์ อีเอ็มซี โออีเอ็ม มองว่าเป็นภาคยุทธศาสตร์ การเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยด้วยวิดีโอ นับเป็นภาคธุรกิจเฉพาะที่ เดลล์ อีเอ็มซี โออีเอ็มเอเชียแปซิฟิก และ เดลล์ โออีเอ็ม ประเทศจีน

มองว่ามีความต้องการอย่างต่อเนื่อง เป็นตลาดที่กำลังโต แต่เป็นตลาดเฉพาะทางและแตกย่อยออกไป นอกจากนี้ ระบบที่รองรับวิดีโอวงจรปิดอาจมีความซับซ้อน ซึ่งด้วยศักยภาพของ เดลล์ อีเอ็มซี โออีเอ็ม แบบครบวงจร ช่วยให้ผู้ประกอบการ โออีเอ็ม หาทางออกในเรื่องของความซับซ้อน

และดึงทรัพยากรพร้อมความร่วมมือที่เหมาะสมมาช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ ในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น Innodep ซึ่งเป็นบริษัทเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยของเกาหลีใต้ มีความต้องการเพิ่มคือการส่งสินค้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว

เพื่อตอบสนองความต้องการโซลูชันที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว แต่เป็นเวอร์ชันที่ให้ความสามารถด้าน IoT ได้อย่างรวดเร็ว การทำงานร่วมกับ เดลล์ อีเอ็มซี โออีเอ็ม ในทุกแง่มุมด้านการพัฒนาตั้งแต่ออกแบบไปจนถึงการเปิดตัว ทำให้ Innodep สามารถย่นระยะเวลาในการพัฒนาไปได้ถึง 40%

ธุรกิจโซลูชัน IoT และ OEM ของ เดลล์ อีเอ็มซี สร้างจากความทุ่มเทที่ต้องการมอบศักยภาพและการบริการที่เหมาะสมแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น และในแบบที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ OEMs และลูกค้าที่จะค้นพบความสำเร็จในโลกใหม่ที่ซับซ้อนของโซลูชัน IoT และระบบฝังตัว

DellEMC

ซุน จิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Innodep กล่าวว่า IoT กำลังสร้างโอกาสใหม่ทางการตลาด สำหรับบริษัทที่ก้าวไปได้เร็ว เราต้องมีคู่ค้าที่ช่วยให้เรามีข้อได้เปรียบจากการเป็นผู้ที่ก้าวก่อนคนอื่น และสร้างศักยภาพด้าน IoT ใส่ไปในผลิตภัณฑ์เพื่อการเฝ้าระวังของเราได้อย่างรวดเร็ว

การทำงานร่วมกับโซลูชันของ เดลล์ อีเอ็มซี โออีเอ็ม และ ไอโอที ช่วยให้เราสามารถย่นระยะเวลาการพัฒนาได้มากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ การมีจุดติดต่อเพียงจุดเดียวทั้งในเรื่องของการออกแบบจนถึงการนำมาใช้งานจริง ทำให้ทีม OEM & IoT ช่วยให้ Singapore IoT Lab

เข้าถึงทรัพยากรด้าน IoT ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ ได้ ช่วยให้เรามีศักยภาพและความเชี่ยวชาญที่จะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้าของเราก็ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยให้มีข้อได้เปรียบจากการสนับสนุนของเดลล์ อีเอ็มซี ในเวลาที่ตัวลูกค้าเองต้องการการสนับสนุน

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง 
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)

สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่