เรารู้จักรบบปัญญาประดิษฐ์มามากมาย ทั้ง Siri และ Watson แต่ Zinrai คือ AI ที่พัฒนาโดยฟูจิตสึ ซึ่งมีไว้สำหรับให้การช่วยเหลือผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม

กนกกมล เลาหบูรณะกิจ รองประธานฝ่ายขายกลุ่มลูกค้าเอนเตอร์ไพรส์ บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับทาง ELeader โดยให้ความเห็นว่าเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ หรือ (Artificial Intelligence : AI) นั้น อย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ทั่วโลกจับตามอง และหลาย ๆ อุตสาหกรรมเองก็ต่าง ๆ เริ่มขยับเข้าใกล้เทคโนโลยีนี้แล้วเช่นกัน

แม้ว่ามันจะเป็นในช่วงเริ่มต้นสำหรับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมก็ตาม เพราะสิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์ทำได้คือการช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ และยังช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีแต่ไม่เคยได้ใช้ เ

ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการบริหารจัดการได้รวดเร็วมากขึ้นให้ทันต่อการแข่งขันในยุคของการใช้ Digital เพื่อการ Transformation นี้ ดังนั้นหากกล่าวว่า AI ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมก็คงไม่ผิด เพียงแต่คงต้องไปดูว่าความจำเป็นของธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรมนั้นต้องการนำไปใช้ในส่วนใด

ทั้งนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะดูเหมือนว่ามีประโยชน์ และสามารถทดแทนการทำงานของมนุษย์ได้ แต่เรามองว่าการใช้ AI ยังจำเป็นต้องถูกควบคุมและวางกรอบแนวคิด หรือเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ให้โดยมนุษย์ ด้วยการใช้ AI เรียนรู้จากข้อมูลและกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกและช่วยให้มนุษย์ทำการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

หรือจะใช้เพื่อในการติดตามรักษาอาการของผู้ป่วยก็สามารถทำได้ เช่น เราสามารถใช้ AI ในการศึกษาพฤติกรรมของผู้ป่วยทางจิตเวช เพื่อดูว่าอาการดีขึ้นหรือมีอาการอยู่ระดับใด เพื่อกำหนดปริมาณยาที่จะใช้ทำการบำบัดรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย หรือนำไปใช้กับการอนุมัติเงินของธนาคารได้ดีขึ้นก็ได้ โดยใช้ AI ตรวจสอบประวัติ ไม่ว่าจะเป็นฐานเงินเดือน ประวัติอาขญากรรม เพื่อประกอบการพิจารณาในการอนุมัติวงเงิน

สำหรับฟูจิสึเราได้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชื่อ “Zinrai” ขึ้นมา และนำไปทดสอบในหลายสถานการณ์ เช่น เราใช้ AI ในวัดระดับความร้อนที่นำไปสู่การเกิดความเครียดของร่างกาย (Heat Stress) ด้วยการให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ IoT ที่ข้อมือพนักงานเพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ ฯลฯ รวมถึงวัดข้อมูลในโรงงานที่พนักงานรายนั้น ๆ อยู่ว่ามีสภาพอย่างไร

ทำให้บริษัทที่มีไซต์งานกลางแจ้งสามารถเก็บข้อมูลสุขภาพพนักงานที่ต้องทำงานกลางแจ้งได้ดียิ่งขึ้น และลดการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการเกิดภาวะ Heatstroke ลง หรือการใช้ในการเรียนรู้ตัวอักษรหรือลายมือของมนุษย์ เพื่อยกระดับการเรียนรู้ของ AI และนำไปสู่ถึงการสร้างกระบวนการที่ปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินได้

อย่างกรณีล่าสุดที่เราได้นำเอา AI ตัวดังกล่าวไปบรรเทาความแออัดในการเดินทางให้แก่ผู้เข้าร่วมงานบางส่วนที่สนามกีฬา ด้วยการผสานการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน เพื่อให้ผู้เข้างานเลือกวิธีการเดินทางกลับบ้านและเวลาในการเดินทางที่เหมาะสม