TrailGuard AI

จับตามอง “กล้องเทรลการ์ด เอไอ” (TrailGuard AI) เทคโนโลยีใหม่ ที่จะช่วยให้รักษาสัตว์ป่าใกล้สูญพันธ์ุ ไม่ให้หมดไปจากโลกใบนี้…

เมื่อมนุษย์เป็นผู้ทำลาย มนุษย์ก็ต้องเป็นผู้กอบกู้ ด้วยเช่นกัน ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมามนุษย์ได้ทำลายหลายสิ่งหลายอย่างไปอย่างมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สัตว์ป่า ที่หลายสายพันธุ์ต้องสูญสิ้นไปด้วยน้ำมือมนุษย์ทั้งทางตรง และทางอ้อม 

TrailGuard AI เทคโนโลยีที่จะช่วยรักษาสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์

ซานโตช วิศวะนาธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น กล่าวว่ามนุษยชาติได้รับผลประโยชน์นานับประการในช่วงสองสามศตวรรษที่ผ่านมา เนื่องด้วยความอัจฉริยะเฉพาะบุคคล อย่าง ลีโอนาร์โด ดาวินชี และโมซาร์ท

เราจึงได้รังสรรค์งานศิลปะที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลงานชิ้นเอกทางวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นที่สนใจของคนทุกยุคสมัย วันนี้เราเดินทางไปยังดินแดนที่ยากจะเข้าถึง ไม่ว่าจะทางบก ทะเล กระทั่งท้องฟ้า เพื่อค้นหารูปแบบชีวิตใหม่และเริ่มต้นยุคโลกาภิวัตน์

เราได้ส่งผู้คนไปยังดวงจันทร์ พยายามกำจัดโรคภัยต่างๆ อย่างต่อเนื่องและสร้างอนุสรณ์อย่างปิรามิดที่สร้างความเกรงขามให้กับเราและท้าทายทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อย่างที่เรารู้กันในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีความเจริญก้าวหน้าต่าง ๆ ในมือ

แต่การที่ทำให้สัตว์ป่าที่อาศัยร่วมโลกกับเราไปอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธ์นั้นใช้เวลาเพียงไม่กี่สิปปีเท่านั้น WWF ตั้งข้อสังเกตว่าเรากำลังมองดูประชากรสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ปลา สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ลดจำนวนลงถึงร้อยละ 60 ในระยะเวลาเพียง 40 ปี

Intel’s Anna Bethke holds the inside of the TrailGuard AI anti-poaching camera system during a recent demonstration in the mountains south of Monterey, Calif. The Intel Movidius Myriad 2 chip in the camera uses artificial intelligence to identify potential poachers. (Credit: Walden Kirsch/Intel Corporation)

นั่นเพราะพฤติกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งรวมถึงการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย การลักลอบทำประมงเกินขีดจำกัด และการลักลอบล่าสัตว์ป่าเถื่อน อย่างไรก็ตาม สัตว์ป่าก็คือมนุษยชาติที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะรับมือกับความท้าทายนี้

โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เช่นปัญญาประดิษฐ์ (AI) การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และกระบวนการทดลองเพื่อช่วยส่งเสริมความคุ้มครองทั่วโลก เรายังมีหน้าที่ที่จะต้องสร้างความยั่งยืนในอนาคตให้กับโลกใบนี้ เพื่อชีวิตทุกรูปแบบที่เราอาศัยร่วมกันบนโลกใบนี้

หนึ่งในพื้นที่ที่จำเป็นต้องมีการแทรกแซงเทคโนโลยีอย่างเร่งด่วนคือการหยุดการลักลอบล่าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย จากการคาดการณ์แสดงให้เห็นว่านักล่าสัตว์ฆ่าช้างทุก ๆ 15 นาที เป็นจำนวนประมาณ 35,000 ตัวต่อปี ดังนั้นยิ่งเราตรวจสอบและควบคุมการรุกล้ำพื้นที่ผิดกฎหมายได้เท่าไหร่ เราก็จะสามารถช่วยสัตว์ได้มากขึ้นตามไปด้วย

TrailGuard AI
Credit: Walden Kirsch/Intel Corporation

และความพยายามบางส่วนก็กำลังจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว องค์กรไม่แสวงผลกำไร รีซอล์ฟ (Resolve) ได้รับการสนับสนุนโดย สมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟิก (National Geographic Society) ร่วมกับมูลนิธิ
ลิโอนาโด ดิคาร์ปริโอ (
Leonardo DiCaprio Foundation)

กำลังติดตั้งกล้องเทรลการ์ด เอไอ (TrailGuard AI) ตัวใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยหน่วยประมวลผล อินเทล โมวิเดียส วิชั่น (Intel Movidius Vision VPUs) ในปี 2562 ป่าสงวนจำนวน 100 แห่ง ในแอฟริกาได้มีการใช้งานกล้องเทรลการ์ด เอไอ ไม่เพียงแค่ตรวจจับผู้บุกรุกเข้าสู่เขตอนุรักษ์สัตว์ป่าเท่านั้น

แต่ยังแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอุทยานในเวลาใกล้เคียง กล้องอัจฉริยะเหล่านี้ใช้กระบวนการเครือข่ายประสาทเทียมสำหรับการตรวจจับวัตถุและการจำแนกภาพเพื่อช่วยตรวจจับมนุษย์ในภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ

ด้วยการจับภาพด้วยกล้อง หากตรวจพบผู้ลักลอบล่าสัตว์ เจ้าหน้าที่อุทยานก็จะได้รับการแจ้งเตือนอีกด้วย หวังว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนสามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุก่อนที่ผู้บุกรุกจะทำอันตรายใด ๆ การตรวจจับ และการยับยั้งไม่ได้เป็นปัญหา

ในขณะที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก้าวหน้าไปแล้วเรายังมีข้อตกลงที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่เราพยายามช่วยปกป้อง ยิ่งไปกว่านั้นการรวบรวมข้อมูลที่เชื่อถือได้อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายและมีค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มนุษย์เข้าไปสำรวจได้ยากและ โดรน คือตำตอบของการเข้าถึงพื้นที่ที่ยากต่อการสำรวจ

ไวลด์แทรค (WildTrack) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่อุทิศให้กับการติดตามสัตว์ป่าที่ไม่รุกรานโดยใช้คอนเซอร์เวชั่นฟิต (ConservationFIT) ซึ่งใช้ภาพของรอยเท้าสัตว์ในการตรวจสอบสัตว์ใกล้สูญพันธุ์กว่าหลายสิบสายพันธุ์

โครงการใช้โดรนเพื่อจับภาพในสถานที่ที่มีภูมิประเทศที่ยากต่อการที่จะเข้าถึงของนักวิจัย ตัวอย่างเช่น การค้นหาเส้นทางเสือชีตาห์ในทะเลทรายของประเทศนามิเบีย (Namibia)

TrailGuard AI
Credit: Christian Miller/Intel Corporation

จุดที่น่าสนใจนี้คือ: คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมูกของปลาวาฬช่วยให้นักวิจัยเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือการสำรวจเพื่อรวบรวมน้ำมูกของปลาวาฬนั้นราคาไม่ถูกเลย

ซึ่ง โดรนจากบริษัทโอเชี่ยน อลิอันซ์ (Ocean Alliance) และบริษัทอินเทล (Intel) หรือที่รู้จักกันในชื่อพาร์เล่ย์ สน็อต-บอต (Parley SnotBots) บินขึ้นเหนือปลาวาฬที่ผิวน้ำในมหาสมุทร และทะเลของโลก เมื่อปลาวาฬหายใจออก โดรนจะช่วยเก็บรวบรวมดีเอ็นเอ (DNA) ความเครียดและฮอร์โมนการตั้งครรภ์

เช่นเดียวกับไวรัส แบคทีเรีย และสารพิษ จากนั้นน้ำมูกจะถูกนำกลับไปให้นักวิจัยเพื่อทำการวิเคราะห์โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อผลิตข้อมูลแบบเรียลไทม์สำหรับโครงการวิจัย และการอนุรักษ์ ความอยู่รอดของสัตว์ป่าในโลกของเรามีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของมนุษยชาติอย่างต่อเนื่อง

TrailGuard AI
Intel Corporation, Parley for the Oceans and the marine experts of Parley SnotBot joined in an Alaskan expedition, where they successfully deployed advanced drone technology, artificial intelligence and machine learning tools to collect biological samples from whales and analyze data in real time. (Credit: Christian Miller/Intel Corporation)

ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้กระบวนการเชิงพยากรณ์และระบบคลาวด์เพื่อช่วยคาดการณ์ว่าผู้ลักลอบจะปรากฏตัวหรือใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ ภาพถ่ายจากดาวเทียมและการทำแผนที่ต้นไม้เพื่อจัดการกับปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า เทคโนโลยีช่วยให้นักอนุรักษ์ทำงานได้ดีขึ้นและเร็วขึ้นกว่าเดิม โอกาสในการต่อสู้เพื่อทำให้โลกใบนี้เป็นสถานที่ที่ดีกว่าสำหรับทุกคน

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัฟฟ์ศุภวายุภักษ์ (บรรณาธิการและผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่