กรุงปักกิ่งมีรถไฟใต้ดินเกือบ 20 แห่ง และสถานีรถไฟใต้ดินมากกว่า 300 แห่งซึ่งมีผู้คนสัญจรไปมามากกว่า 9 ล้านคนต่อวัน . (Picture: AFP)
รถไฟฟ้าใต้ดินปัก เตรียมใช้เทคโนโลยีสแกนใบหน้า เพื่อแก้ปัญหาจำนวนผู้โดยสาร โดยเชื่อว่าสามารถลดขั้นตอนการต่อคิวซื้อตั๋วและรอเข้าสถานีได้

ปักกิ่งเป็นแม่งอันดับต้น ๆ ของโลกที่มีประชากรหนาแน่น เช่นเดียวกันนิวยอร์กและกรุงเทพมหานคร เมืองใหญ่ ๆ มักเกิดปัญหาเรื่องการสัญจรไปมาของผู้คน รถไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกสำหรับนคนที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง

ทว่ารถไฟฟ้าในกรุงปักกิ่งก็เกิดปัญหา ผู้คนหลายล้านใช้การเดินทางในลักษณะนี้เป็นหลัก และถึงแม้ว่ารถไฟที่วิ่งอยู่จะมีปริมาณเพียงพอ แต่การต่อคิวซื้อตั๋วและรอหยอดเหรียญเข้าสถานียังนั้นเวลานาน เนื่ยงจากมีปริิมาณผู้โดยสารค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ ปักกิ่งแก้ปัญหาโดยเตรียมนำเทคโนโลยีแสกนใบหน้าและสแกนฝ่ามือเข้ามาใช้ยืนยันผู้โดยสารในการเข้าใช้บริการรถไฟฟ้า โดยเชื่อว่าสามารถลดขั้นตอนการต่อคิวรอซื้อตั๋วและต่อคิวเพื่อเข้าสถานีได้

เทคโนโลยีสแกนใบหน้าและแสกนฝ่ามือนั้นไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ เคสนี้เป็นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ใหม่ ๆ  โดยจุดประสงค์เดิมของเทคโนโลยีสแกนใบหน้าคือใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยและติดตามคนร้าย

อนึ่ง ยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าจะใช้วิธีการเก็บเงินผู้โดยสารยังไง แต่ถ้าให้คาดคะเน หลังจากสแกนใบหน้าเสร็จ ระบบจะนำข้อมูลไปเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลบัญชี และจัดการหักเงินผ่านระบบอัติโนมัติ โดยวิธีการนี้จะสามารถลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการต่อคิวซื้อตั๋วลงไปได้

Credit : Abacus